TOP 10 เพลงญี่ปุ่นยอดนิยม ต้องเพิ่มในเพลย์ลิสต์

ถ้าจะให้เลือกเพลงญี่ปุ่นที่ต้องเพิ่มเข้าลิสต์สักเพลง ก็ต้องมีเพลง Idol จาก YOASOBI เพลงที่เป็นมากกว่าเพลงยอดนิยม ต้องเรียกว่าเป็นเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก แม้คนที่ไม่เคยดูอนิเมะเรื่องนี้ หรือฟังเพลงญี่ปุ่นมาก่อน ก็ยังถูกดึงดูดให้มาสนใจเพลงนี้ ด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ikura นักร้องนำ และดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปที่สร้างสรรค์โดยโปรดิวเซอร์/นักแต่งเพลงอย่าง Ayase

เพลง Idol สร้างโดยอิงเรื่องราวมาจากอนิเมะเรื่องเกิดใหม่เป็นลูกโอชิ (Oshi no Ko) เล่าถึงชีวิตเรื่องราวเบื้องหลังของชีวิตการเป็นไอดอลที่ไม่ได้มีแต่มุมที่สดใสสวยงาม หรืออยู่ท่ามกลางแสงสี แต่ยังมีความกดดัน ความลับ ความเจ็บปวดต่างๆ ทำให้เพลงมีมิติมากขึ้น

เพลงถูกนำไปทำชาเลนจ์เต้นบน TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้เพลงนี้มียอดสตรีมมิ่งและยอดวิวบน YouTube ถล่มทลาย ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงในหลายประเทศ และกลายเป็นเพลงญี่ปุ่นเพลงแรกที่ติดอันดับ Top 10 บน Billboard Global Excl. U.S. ตอกย้ำความปังของเพลงได้เป็นอย่างดี

ถ้าใครเป็นแฟนๆ อนิเมะ คิดว่าหลายๆ คนคงเคยร้อง สึโยขุ~ นาเรรุ～ท่อนเปิดของเพลง Gurenge ที่เป็นเพลงประกอบอนิเมะเรื่องดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer/ Kimetsu no Yaiba) แน่นอน เรียกได้ว่าเพลงนี้เป็นอนิซอง (Anisong) หรือเพลงประกอบอนิเมะที่ดังเป็นพลุแตก มาเสริมกับตัวอนิเมะที่เป็นที่นิยมจากทุกเพศทุกวัย และเป็นเพลงที่ทำให้ LiSA เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับโลก

เพลง Gurenge พูดถึงการต่อสู้ การก้าวข้ามอุปสรรค และการไม่ยอมต่อโชคชะตา เหมือนกับตัวเอก ทันจิโร่ ที่ไม่ยอมต่อโชคชะตาและพยายามที่จะช่วยให้น้องสาวของตัวเอง เนซึโกะ ที่ได้กลายเป็นอสูรกลับคืนสู่สภาพเดิมที่เป็นมนุษย์ ด้วยเมโลดี้ที่เร้าใจ จังหวะร็อกที่หนักแน่นแต่ฟังง่าย บวกกับเสียงของลิซ่าที่มีเอกลักษณ์ ส่งเพลงนี้ให้มีพลังยิ่งกว่าเดิม ฟังแล้วรู้สึกฮึกเฮิมมากๆ

KICK BACK เพลงเปิดตัวสุดมันของอนิเมะยอดฮิตอย่าง Chainsaw Man ที่ได้นักร้องชื่อดังที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์อย่าง Kenshi Yonezu มาร้องเพลงประกอบ แม้อนิเมะจะออกฉายแล้วในช่วงปลายปี 2022 แต่เพลงก็ยังมาแรงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน กลายเป็นเพลงที่หลายคนรู้จัก แม้ไม่ใช่แฟนอนิเมะก็ตาม

เพลงได้พูดถึงการต่อสู้ การก้าวข้ามความเจ็บปวด และการยืนหยัดในโลกที่โหดร้าย เข้ากับเรื่องราวของอนิเมะ Chainsaw Man ได้เป็นอย่างดี ด้วยจังหวะร็อกผสมกับอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เพลงมีความหนักแน่น เร้าใจ ฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะโยกตาม แน่นอนว่ายอดสตรีมมิ่งและยอดวิวใน YouTube พุ่งสูงแบบฉุดไม่อยู่ และไต่ขึ้นชาร์ตเพลงในหลายประเทศ ตอกย้ำความดังและปังของ Kenshi Yonezu ในฐานะศิลปินระดับโลก

เพลงประกอบแอนิเมชั่นชื่อเดียวกับเพลง Suzume ของผู้กำกับชื่อดัง Makoto Shinkai ที่เคยฝากผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ไว้หลายเรื่องอย่าง Your Name, Weathering With You เมโลดี้ที่เพราะจับใจตั้งแต่เริ่มเพลง การผสมผสานดนตรีแนวป๊อป-ร็อกที่เป็นเอกลักษณ์ของ RADWIMPS เข้ากับเสียงร้องของ taoka ที่มาร่วมฟีทเจอริ่งเพลงนี้ ทำให้เพลง Suzume สามารถเข้าถึงอารมณ์ของผู้ฟังได้มากยิ่งขึ้น

เนื้อเพลงพูดถึงการเดินทาง การค้นหา ความหวัง และการเยียวยาบาดแผลจากภัยพิบัติ ซึ่งเป็นประเด็นละเอียดอ่อนและคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญมาก ด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ทำให้เพลงนี้กระตุ้นอารมณ์ร่วมได้อย่างดี และสร้างความประทับใจให้ผู้คนได้แม้จะต่างภาษา เนื่องจากเพลงนี้มีเมโลดี้ที่ไพเราะ ทำให้เป็นที่นิยมในการใช้เป็นเพลงประกอบในวิดีโอต่างๆ บนโซเชียลเมเดียอย่างต่อเนื่อง

เพลงที่กลายเป็นไวรัลในแพลตฟอร์มอย่าง TikTok ทำให้ Fujii Kaze กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยการเป็นเพลงป๊อปที่ผสมผสานความเป็น R&B, Soul, Funk ที่เป็นเอกลักษณ์ของฟูจิอิ คาเสะไว้ได้อย่างลงตัว บอกกับเสียงร้องที่นุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ลึกซึ้ง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่ติดหูและเป็นเพลงในลิสต์ของใครหลายๆ คน

เพลงนี้สื่อถึงคนคนหนึ่งที่มีความรักที่มั่นคงและเด็ดเดี่ยว หากไม่ได้รัก ก็ขอตายจะดีกว่า เข้ากับชื่อเพลง Shinunoga E-Wa ที่มีความว่า ฉันยอมตายดีกว่า แม้เนื้อหาจะเข้มข้น แต่กลับถ่ายทอดออกมาในจังหวะเพลงเบาๆ ที่ฟังสบาย ทำให้เพลงเป็นที่จดจำจนคนฟังต้องร้องท่อน Shinunoga E-Wa วนๆ ตามกกันไปเลยล่ะ

เพลง Pretender เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ The Confidence Man JP: Romance Arc หลังเพลงปล่อยออกมา ความนิยมของเพลงก็พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะสวยงาม การเรียบเรียงดนตรีที่ปราณีต เสริมด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Satoshi Fujihara ทำให้เพลงนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น 

เนื้อเพลงพูดถึงความรักที่ไม่สมหวัง การที่ต้องแกล้งทำเป็นโอเค ทั้งที่จริงแล้วตัวเองก็เจ็บปวด และการยอดรับความจริงว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักเราในแบบที่เราต้องการ เพราะเป็นเรื่องความรักทำให้เนื้อหาเพลงนี้ไปตรงใจและตรงกับประสบการณ์ของใครหลายๆ คน เรียกได้ว่าฟังแล้วรู้สึกซึ้งและเศร้าไปพร้อมๆ กัน

เพลงประกอบอนิเมะเรื่อง BEASTARS 2 อนิเมะที่มีเนื้อหาลึกลับซับซ้อน สะท้อนสังคมได้อย่างแยบยล เนื้อเพลงสะท้อนธีมหลังของอนิเมะที่พูดถึงการต่อสู้ระหว่างสัญชาตญาณกับความเป็นมนุษย์ การยอมรับสัตว์ประหลาดที่อยู่ในตัวเอง และการพยายามที่จะปกป้องสิ่งที่ตัวเองรัก เนื้อหาที่สื่อถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งเช่นนี้ กินใจหลายๆ คนที่ได้ฟังเพลง

สำหรับใครที่อาจไม่ได้เข้าใจเนื้อหาของเพลงเนื่องจากกำแพงภาษา แต่จังหวะเพลงที่เป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์ป๊อปหนักแน่นและเร้าใจตั้งแต่ต้นจนจบเพลง โดยเฉพาะช่วงที่ร้องเสียงสูง ทำให้เพลงมีไดนามิก ติดหู ไม่น่าเบื่อ 

เพลงที่มีเมโลดี้ฟังสบาย ฟังแล้วนึกถึงบรรยากาศของฤดูร้อน งานเทศกาลดอกไม้ไฟ และควมาทรงจำอันแสนหวาน การผสมผสานดนตรีอิเล็กทรอนิกศ์ป๊อปของ DAOKO เข้ากับการเรียบเรียงและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Kenshi Yonezu  ทำให้เพลงนี้ลงตัวมากขึ้น และแน่นอนว่ากลายเป็นเพลงที่ครองใจและครองชาร์ตไปโดยปริยาย

พูดถึงความรู้สึกของความรักครั้งแรก ความทรงจำในวัยเยาว์ และความงดงามของดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งเป็นธีมที่โรแมนติกและเข้าถึงใจผู้ฟังจำนวนมาก ภาพประกอบมิวสิควิดีโอก็สวยจนชวนฝัน เสียงร้องหวานๆ ของ DAOKO และ Kenshi Yonezu ยิ่งทำให้เพลงสมบูรณ์แบบมากขึ้น ใครที่เคยได้ยินครั้งแรก รับรองว่าต้องอยากรู้แน่นอนว่าเพลงนี้ชื่ออะไร

เพลงที่ได้รับความนิยมอย่างถล่มถลายหลังจากถูกใช้เป็นเพลงปิดอนิเมะสุดฮิตอย่าง SPY x FAMILY ซีซั่น 1 ด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และจังหวะที่ติดหู ทำให้ Kaiju no Hanauta กลายเป็นเพลงฮิตอย่างรวดเร็ว และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

แม้ชื่อเพลงจะมีความหมายว่า เสียงฮัมเพลงของสัตว์ประหลาด แต่เนื้อหาเพลงไม่ได้เกี่ยวสัตว์ประหลาด แต่พูดถึงความรู้สึกที่ซับซ้อน การปลดปล่องตัวเอง และการค้นหาความหมายในสิ่งต่างๆ เข้ากับธีมของอนิเมะที่เต็มไปด้วยความลับและตัวตนที่ซ่อนเร้นได้เป็นอย่างดี

แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เพลง Marigold ก็ยังเป็นที่นิยมและถูกเปิดฟังอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเมโลดี้ที่เรียบง่าย แต่ไพเราะ ทำให้ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายและชวนให้ร้องตามได้ง่ายๆ การเน้นใช้เสียงอะคูสติกกีตาร์ในดนตรีและเสียงร้องที่นุ่มนวลแต่มีพลังของ Aimyon ทำให้เพลงนี้มีความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ

เนื้อเพลงพูดถึงความรู้สึกคิดถึง ความทรงจำในฤดูร้อน และความรักที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง การใช้คำที่ตรงไปตรงมาไม่ปรุงแต่ ทำให้เพลงเข้าถึงความรู้สึกของผู้ฟังที่มีประสบการณ์แบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก