JR Pass แบบทั่วประเทศ หรือแบบเฉพาะภูมิภาค แบบไหนคุ้มกว่ากัน

Japan Rail Pass All Area คือตั๋วรถไฟบุฟเฟต์สุดฮิตที่ให้นักท่องเที่ยวนั่งรถไฟของเครือ JR ได้แบบไม่อั้นทั่วญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งแบบ Ordinary Car กับ Green Car โดยพาสมีอายุการใช้งาน 7 วัน 14 วันและ 21 วันต่อเนื่องกันนับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้ พาสตัวนี้เหมาะมากๆ สำหรับคนที่วางแผนเที่ยวหลายๆ เมืองแบบข้ามภูมิภาค เช่น จากโตเกียวไปโอซาก้า เกียวโต ฮิโรชิม่า หรือขึ้นเหนือไปฮอกไกโด เพราะค่ารถไฟชินคันเซ็นแต่ละเที่ยวแพงหูฉี่ การมี JR Pass จะช่วยให้ประหยัดเงินไปได้เยอะมากๆ และยังวางแผนการเดินทางได้แบบยืดหยุ่นสุดๆ

Japan Rail Pass All Area จะคุ้มค่าที่สุดถ้า

1.เดินทางข้ามเมืองหรือข้ามภูมิภาคหลายครั้ง เช่น จากโตเกียวไปเกียวโต โอซาก้า ฮิโรชิม่า ซัปโปโร หรือฟุกุโอกะ การเดินทางด้วยชินคันเซ็นแต่ละเที่ยวมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การใช้ JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศจะช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะมากๆ

 

2.ใช้ชินคันเซ็นหรือรถไฟด่วนพิเศษบ่อย ถ้าในแพลนเที่ยวมีการใช้รถไฟชินคันเซ็น  (Shinkansen) ตั้งแต่ 2-3 เที่ยวขึ้นไปในระยะทางไกลๆ เช่น โตเกียว-เกียวโต หรือโตเกียว-โอซาก้า-ฮิโรชิม่า ก็นับว่าการซื้อพาสนั้นคุ้มค่ามากกว่าการซื้อตั๋วแยก เพราะแค่ค่าตั๋วไปกลับโตเกียว-เกียวโตก็เกือบจะเท่าราคา JR Pass 7 วันแล้ว แถม JR Pass ยังใช้กับการเดินทางรูปแบบอื่นๆ อย่างรถบัส รถไฟด่วน หรือเรือเฟอร์รี่ได้ด้วย และถ้าแพลนเที่ยวมีการใช้รถไฟทางไกลบ่อยๆ บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

 

• 

• 

3.ระยะเวลาเที่ยว 1 อาทิตย์ขึ้นไปและต้องเดินทางเปลี่ยนเมืองบ่อยๆ ถ้ามีเวลาเที่ยวญี่ปุ่นหลายวันหรือเป็นอาทิตย์ สองอาทิตย์ และมีแพลนเที่ยวที่ต้องเดินทางย้ายเมืองหรือข้ามภูมิภาคบ่อยๆ การซื้อ JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศเอาไว้จะช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก เพราะไม่ต้องคอยเสียเวลายืนรอซื้อตั๋วทุกครั้งที่จะขึ้นรถไฟ

 

4.ต้องการความยืดหยุ่นในทริป การซื้อ JR Pass จะทำให้การเดินทางมีความยืดหยุ่นทางด้านเวลาและแพลนมากขึ้น ถ้าอยากไปไหนก็แค่ขึ้นรถไฟในเครือ JR ได้เลย สามารถเปลี่ยนแพลนง่ายๆ แบบไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ยกเว้นรถไฟชินคันเซ็นขบวน Nozomi และขบวน Mizuho ที่ยังต้องซื้อตั๋วเสริม

• 

• 

Japan Rail Pass All Area จะไม่คุ้มค่าถ้า

1.เที่ยวแค่เมืองเดียวหรือภูมิภาคเดียวหรือบริเวณใกล้เคียง เช่น เที่ยวโตเกียวและแวะไปเที่ยวโยโกฮาม่าบ้าง หรือแพลนไปเที่ยวแค่เกียวโต แต่อาจมีแวะเที่ยวนาราเล็กน้อย หรือเที่ยวแค่โซนคันไซ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นาราเท่านั้น สำหรับแพลนการเที่ยวแบบนี้ การซื้อ JR Pass ทั่วประเทศจะแพงเกินความจำเป็น ควรซื้อตั๋วโดยสารรถไฟท้องถิ่น หรือ JR Pass แบบภูมิภาคที่ครอบคลุมพื้นที่นั้นๆ แทน

 

2.เดินทางน้อยครั้งหรือเน้นเดินทางในระยะใกล้ ถ้าทริปเน้นการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ เน้นอยู่เมืองเดียวนานๆ หรือเดินทางด้วยรถไฟ JR แค่ 1-2 ครั้งในระยะทางสั้นๆ การซื้อตั๋วแยก หรือใช้ IC Card ในการเดินทางเป็นหลักจะประหยัดกว่ามาก

• 

• 

3.มีแผนการเดินทางที่ไม่ใช่รถไฟ JR เป็นหลัก บางเส้นทางหรือบางเมือง การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน (Subway) หรือรถไฟของบริษัทเอกชน อาจจะสะดวกและเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้ดีกว่ารถไฟ JR เช่น ในโตเกียวที่มีรถไฟใต้ดินหลายสายครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ซึ่ง JR Pass ไม่ครอบคลุม หรือถ้าวางแผนจะเดินทางด้วยรถบัสเป็นหลักซึ่งมีราคาถูกกว่ารถไฟมาก ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ JR Pass เลย

4.งบน้อยและต้องการจำกัดค่าใช้จ่าย แม้การใช้ตั๋ว JR Pass จะคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการซื้อตั๋วแยกเป็นเที่ยวๆ แต่ราคา JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศก็ราคาสูงพอสมควร ถ้ามีงบจำกัดจริงๆ อาจจะต้องพิจารณาเส้นทางที่ใช้ JR Pass แบบภูมิภาคที่ราคาถูกลงมา หรือหาวิธีเดินทางอื่นๆ ที่ประหยัดกว่า เช่น รถบัส

• 

• 

JR Pass แบบเฉพาะภูมิภาคคืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่คิดจะเดินทางข้ามภูมิภาคหรือเดินทางไกลๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่เน้นเจาะลึกแค่บางพื้นที่ หรือบางภูมิภาค และอาจจะคุ้มกว่าการซื้อ JR Pass แบบทั่วประเทศเยอะ เพราะราคาถูก แถมมีตัวเลือกวันใช้งานที่หลากหลายกว่า

Regional JR Pass จะคุ้มค่าที่สุดถ้า

1.เน้นเที่ยวแค่ภูมิภาคเดียว ถ้าทริปญี่ปุ่นตั้งใจจะเที่ยวแค่คันไซ ให้เต็มอิ่ม หรือจะตะลุยฮอกไกโดทั้งเกาะให้ทั่ว หรือเที่ยวแค่โซนคิวชูใต้หรือคิวชูเหนืออย่างเดียว การซื้อ Regional JR Pass ที่ครอบคลุมพื้นที่นั้นๆ จะประหยัดและตอบโจทย์กว่าการซื้อ JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศมาก เพราะราคาถูกกว่ากันเยอะเลย

 

2.ระยะเวลาเที่ยวจำกัด บาง  Regional JR Pass มีให้เลือกระยะเวลาใช้งานหลากหลาย เช่น 1 วัน  3 วัน 5 วัน ซึ่งเหมาะกับคนที่มีวันเที่ยวจำกัด แต่อยากเที่ยวให้คุ้มในโซนนั้นๆ การเลือกใช้ Regional Pass นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีมาก

• 

• 

3.ต้องการประหยัดงบ ราคาของ Regional JR Pass มักจะถูกกว่า JR Pass แบบทั่วประเทศค่อนข้างมาก ทำให้ Regional JR Pass เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการคุมค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง โดยเฉพาะถ้าคำนวณแล้วว่าค่าตั๋วรถไฟที่ต้องจ่ายในภูมิภาคนั้น ๆ สูงกว่าราคา Regional JR Pass

4.มีแผนเที่ยวที่จะใช้รถไฟ JR บ่อยในภูมิภาคนั้น นอกจากรถไฟชินคันเซ็นแล้ว Regional JR Pass ยังครอบคลุมการเดินทางด้วยรถไฟด่วยพิเศษและรถไฟท้องถิ่นในเครือ JR ภายในภูมิภาคด้วย ถ้ามีแพลนจะเดินทางไปตามเมืองเล็ก ๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยรถไฟ JR หลายครั้งในโซนนั้น ๆ พาสนี้ก็คุ้มมากๆ เพราะจะช่วยให้เดินทางไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกและประหยัด

 

5.ไม่จำเป็นต้องเดินทางด้วย Shinkansen ข้ามภูมิภาคใหญ่ๆ บ่อยนัก ถ้าแพลนในทริปไม่ได้มีการเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากภูมิภาคนึงไปอีกภูมิภาคนึงไกลๆ บ่อยครั้ง การซื้อ Regional JR Pass จะประหยัดกว่ามาก หากมีความจำเป็นต้องเดินทางระยะไกล ก็อาจจะเลือกการนั่งรถบัสที่ราคาถูกกว่า JR Pass แบบทั่วประเทศ

• 

• 

Regional JR Pass จะไม่คุ้มค่าถ้า

1.ต้องการเดินทางข้ามภูมิภาคบ่อยๆ หากวางแผนจะออกจากพื้นที่ที่พาสครอบคลุมบ่อยๆ เช่น วางแผนจะเที่ยวคันไซ 3 วัน แล้วไปโตเกียวต่ออีก 3 วัน การซื้อตั๋วเสริมหรือซื้อตั๋วชินคันเซ็นแยกต่างหาก อาจทำให้ค่าใช้จ่ายรวมแพงกว่าการซื้อ JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศไปตั้งแต่แรก

 

2.เดินทางน้อยมาก แม้จะอยู่ในภูมิภาคนั้น ถึงแม้จะเที่ยวแค่ในภูมิภาคเดียว แต่ถ้าแพลนเที่ยวเน้นการเที่ยวแบบเดินเป็นหลัก หรือเดินทางด้วยรถไฟ JR เพียงแค่ 1-2 ครั้งในระยะทางสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่สถานี การซื้อ Regional JR Pass ก็อาจจะไม่คุ้มค่า การซื้อตั๋วแยกหรือใช้บัตร IC Card จะถูกกว่าราคาของพาส

• 

• 

3.มีแผนใช้รถไฟเอกชน หรือรถไฟใต้ดินเป็นหลัก ในเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า การเดินทางภายในเมืองส่วนใหญ่จะเน้นการเดินทางโดยรถไฟใต้ดินหรือรถไฟของบริษัทเอกชน ซึ่ง Regional JR Pass ไม่ครอบคลุมการใช้งานรถไฟเหล่านี้ ถ้าทริปเน้นการใช้ระบบขนส่งพวกนี้เป็นหลัก การซื้อ Regional JR Pass ก็อาจไม่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้เลย

วางแผนเส้นทางเที่ยวให้ชัดเจน

ลิสต์เมืองที่จะไป วันที่ไปถึง วันที่ออกจากแต่ละเมือง และวิธีการเดินทางระหว่างเมืองให้ชัดเจน เพื่อให้เห็นแพลนการเดินทางแบบคร่าวๆ พิจารณาความถี่และระยะทางของการเดินทางด้วยรถไฟ JR

คำนวณค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วแยก

เข้าไปใน Google Maps หรือเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อเช็กค่าโดยสารรถไฟแต่ละเที่ยวที่ใช้ในการเดินทาง แล้วรวมยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด ดูว่าราคาสูงหรือน้อยกว่าเมื่อเทียบกับราคา JR Pass

ชั่งน้ำหนักระหว่างความสะดวกสบายกับราคา

แม้บางทีค่าใช้จ่ายอาจจะต่างกันไม่มาก แต่ความสะดวกสบายในการไม่ต้องซื้อตั๋วหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเร่งด่วน และความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางระหว่างทริปหรือตัดสินใจแวะที่ไหนเพิ่มเติม ก็เป็นสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาด้วย

ตัวอย่าง

🧳ทริป 7 วัน โตเกียว-โอซาก้า-เกียวโต-โตเกียว หากมีแผนการเที่ยวแบบนี้การซื้อ JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศ 7 วัน นับว่าคุ้มค่ามาก เพราะมีการเดินทางข้ามภูมิภาค แค่ค่าชินคันเซ็นไปกลับก็เกือบเท่าราคาพาสแล้ว แถมยังใช้พาสเดินทางในเมืองและไปเที่ยวรอบๆ ได้อีกด้วย

 

 

🧳ทริป 5 วัน โอซาก้า-เกียวโต-นารา แพลนการเที่ยวแบบนี้ การซื้อ JR West Rail Pass (JR Kansai Area Pass) แบบ 4 วันหรือ 5 วัน จะคุ้มค่ากว่าการซื้อ JR Pass แบบครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะราคาถูกกว่ามากและครอบคลุมพื้นที่ที่จะไป

• 

•