แพลนเที่ยวญี่ปุ่น 2025: เส้นทางยอดฮิต โตเกียว คันไซ ฮอกไกโด พร้อมงบประมาณคร่าวๆ

แพลนเที่ยวญี่ปุ่น 2025: เส้นทางยอดฮิต โตเกียว คันไซ ฮอกไกโด พร้อมงบประมาณคร่าวๆ

การวางแพลนเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2025 ถือเป็นก้าวแรกสู่ประสบการณ์ที่น่าจดจำ เพราะการเตรียมพร้อมที่ดีจะช่วยให้เดินทางราบรื่นและมีความสุข การกำหนดช่วงเวลาที่จะเที่ยวให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ หลายคนเลือกเดินทางช่วงฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมซากุระ หรือฤดูใบไม้ร่วงเพื่อสัมผัสความงามของใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนคนที่ชอบกิจกรรมฤดูหนาวอย่างการเล่นสกี ฮอกไกโดเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ การทำความเข้าใจระบบขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความตรงต่อเวลาและประสิทธิภาพ เช่น รถไฟชินคันเซ็น รถไฟใต้ดิน และรถบัส จะช่วยให้เดินทางในเมืองและระหว่างเมืองได้สะดวกสบาย และการวางแผนเส้นทางการเดินทางล่วงหน้ายังช่วยประหยัดเวลาได้มาก อีกทั้งการศึกษาข้อมูลสภาพอากาศแต่ละภูมิภาคและช่วงเวลาจะช่วยให้จัดเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ได้เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็ทำให้การเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเรื่องง่ายและสนุก

สารบัญ

Show More

วางแผนงบประมาณเที่ยวญี่ปุ่น

ก่อนจะเริ่มออกเดินทาง การกำหนดงบประมาณ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการวางแผนเดินทาง การประมาณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจะช่วยให้บริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินระหว่างทริป โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายหลักๆ ในการเที่ยวญี่ปุ่นคือ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร ค่าเดินทางในประเทศ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งงบประมาณจะต่างกันไปตามรูปแบบการเดินทางและไลฟ์สไตล์

งบประมาณโดยประมาณสำหรับทริปญี่ปุ่น

💰 ค่าตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น ราคาตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นมักจะขึ้นลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสายการบิน ช่วงเวลาที่จอง และฤดูท่องเที่ยว การจองล่วงหน้าหลายเดือนมักจะได้ราคาดีกว่า สายการบินโลว์คอสต์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประหยัดได้มาก และควรตรวจสอบว่าน้ำหนักสัมภาระรวมอยู่ในราคาตั๋วด้วยหรือไม่ การเปรียบเทียบสายการบินและช่วงเวลาก่อนจองตั๋วจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ยิ่งขึ้น

 

💰 ค่าที่พักในญี่ปุ่น ที่พักในญี่ปุ่นมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่โฮสเทลราคาประหยัด เรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ไปจนถึงโรงแรมหรูห้าดาว ซึ่งราคาจะต่างกันตามทำเล ประเภทที่พัก และช่วงเวลาเข้าพัก การเลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางได้มาก

💰 ค่าอาหารและเครื่องดื่มในญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นมีตั้งแต่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์ การกำหนดงบประมาณสำหรับอาหารขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว การซื้ออาหารจากร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก ส่วนการลองอาหารท้องถิ่นตามร้านเล็กๆ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี

 

💰 ค่าเดินทางในญี่ปุ่น การเดินทางในญี่ปุ่นมีความสะดวกสะบาย การเดินทางโดยใช้รถไฟ JR เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากหากเดินทางข้ามเมืองบ่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีบัตร IC Card เช่น Suica Pasmo ที่ใช้สำหรับรถไฟใต้ดิน รถบัส และซื้อสินค้าตามร้านค้าต่างๆ ได้

💰 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและอื่นๆ ส่วนนี้รวมถึงค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าช้อปปิ้ง ค่าของฝาก และเงินฉุกเฉิน การเผื่อเงินสำหรับส่วนนี้จะช่วยให้การเดินทางคล่องตัว การวางแพลนเที่ยวญี่ปุ่น โดยคำนึงถึงงบประมาณเหล่านี้จะช่วยให้บริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้เหมาะสม

วิธีประหยัดงบเที่ยวญี่ปุ่น

การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยงบประมาณจำกัดไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณวางแผนและใช้เคล็ดลับประหยัดอย่างชาญฉลาด การลดค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วนของการเดินทางจะช่วยให้เที่ยวได้นานขึ้น หรือมีเงินเพิ่มสำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจ ทำให้ทริปญี่ปุ่นคุ้มค่าและน่าประทับใจยิ่งขึ้น

 

☔ เลือกช่วงเวลา Low Season เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย การเดินทางในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว เช่น ปลายฤดูหนาว หรือต้นฤดูร้อน มักจะได้ราคาตั๋วเครื่องบินและที่พักที่ถูกกว่า นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็คนไม่แน่นเท่าช่วงไฮซีซั่น ทำให้เที่ยวได้อย่างสบายใจขึ้น

 

☔ ค้นหาโปรโมชั่นและดีลพิเศษสำหรับที่พักและตั๋วเครื่องบิน การสมัครรับข่าวสารจากสายการบินหรือเว็บไซต์ท่องเที่ยวจะช่วยให้ไม่พลาดดีลดีๆ การใช้บัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์สำหรับการเดินทางก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยสะสมคะแนนหรือรับส่วนลด

☔ การเลือกซื้ออาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ การซื้ออาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อ เช่น ข้าวปั้น เบนโตะ หรืออาหารสำเร็จรูปอื่นๆ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยเฉพาะช่วงเย็น ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งมักมีส่วนลดสำหรับอาหารสดใหม่

 

☔ ใช้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อลดค่าเดินทาง ระบบขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่ามีประสิทธิภาพสูงและตรงเวลา การใช้รถไฟใต้ดิน รถไฟ JR และรถบัสเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางในเมือง การซื้อ Pass แบบต่างๆ เช่น JR Pass, Tokyo Subway Ticket หรือ Osaka Amazing Pass จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก หากวางแผนเส้นทางที่ครอบคลุม

☔ เลือกที่พักแบบประหยัด หากใครสะดวก การเลือกพักในโฮสเทล เกสต์เฮาส์ หรือโรงแรมแคปซูลจะช่วยประหยัดค่าที่พักได้มาก ที่พักเหล่านี้มักสะอาด ปลอดภัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน บางแห่งยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถพบปะและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักเดินทางคนอื่นๆ ได้

 

☔ วางแผนกิจกรรมฟรี ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวฟรีมากมาย เช่น สวนสาธารณะ วัดบางแห่ง ศาลเจ้า หรือการเดินเล่นในย่านต่างๆ เช่น ชิบูย่า ชินจูกุ หรือฮาราจูกุ การเพลิดเพลินกับบรรยากาศและวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชมก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

🗼Model Course 2025: โตเกียว (Tokyo) 3 วัน 2 คืน

สำหรับคนที่มีเวลาน้อยแต่ต้องการสัมผัสบรรยากาศและไฮไลท์สำคัญของกรุงโตเกียว แพลนเที่ยวญี่ปุ่น 3 วัน 2 คืนนี้ เป็นทางเลือกเหมาะสมที่จะทำให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์น่าประทับใจจากเมืองหลวงแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่

Day 1🗼 ชิบูย่า ฮาราจูกุ ศาลเจ้าเมจิ ชินจูกุ

เริ่มต้นวันที่ย่านชิบูย่า (Shibuya) จุดนัดพบยอดนิยมที่มีสี่แยกชิบูย่าอันโด่งดัง สัมผัสความคึกคักของผู้คนที่เดินสวนกัน และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากนั้นเดินทางต่อไปยังฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งรวมแฟชั่นวัยรุ่นและวัฒนธรรมคาวาอี้ที่ไม่เหมือนใคร สำรวจถนนทาเคชิตะ (Takeshita Street) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นแปลกใหม่และร้านเครปอร่อยๆ

สี่แยกชิบูย่า (Shibuya Scramble Crossing)

ที่อยู่

ชิบูย่า โตเกียว

 

ปิดท้ายวันด้วยการเยี่ยมชมศาลเจ้าเมจิ จิงกู (Meiji Jingu Shrine) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเงียบสงบใจกลางเมือง ให้ความรู้สึกต่างจากความวุ่นวายภายนอกอย่างสิ้นเชิง ในช่วงเย็นเดินทางสู่ชินจูกุ (Shinjuku) เพื่อชมแสงสียามค่ำคืนของตึกสูงระฟ้า และอาจแวะทานอาหารค่ำในย่านคาบูกิโจ (Kabukicho) หรือดื่มด่ำกับบรรยากาศที่โกลเดนไก (Golden Gai)

ศาลเจ้าเมจิ จิงกู (Meiji Jingu Shrine)

ที่อยู่

1-1 โยโยงิกามิโซโนะโจ ชิบูย่า โตเกียว

Day 2🗼 อาซากุสะ อุเอโนะ โตเกียวสกายทรี

เริ่มต้นวันที่อาซากุสะ (Asakusa) เยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว เดินเล่นตามถนนนากามิเสะโดริ (Nakamise-dori) ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม จากนั้นเดินทางต่อไปยังอุเอโนะ (Ueno) เพื่อเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว หรือเดินเล่นในสวนอุเอโนะอันกว้างใหญ่ ในช่วงบ่าย ไปยังโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) เพื่อชมวิวเมืองโตเกียวแบบ 360 องศา เป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มา เที่ยวญี่ปุ่น

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

ที่อยู่

1-1-2 โอชิอาเกะ เขตสุมิดะ โตเกียว

Day 3🗼 ตลาดปลาซึกิจิ ย่านกินซ่า

เช้าวันสุดท้ายเริ่มต้นที่ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Outer Market) สำหรับผู้ที่ชอบอาหารทะเลสดๆ ตลาดแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารทะเลอร่อยๆ มากมาย จากนั้นเดินทางสู่กินซ่า (Ginza) ย่านช้อปปิ้งสุดหรูของโตเกียว ที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารหรู และแกลเลอรี่ศิลปะ คุณสามารถเลือกซื้อของฝากหรือสินค้าแฟชั่นระดับโลกได้ตามต้องการ ปิดท้ายทริปญี่ปุ่นในโตเกียวด้วยการเดินเล่นชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามและสัมผัสบรรยากาศอันหรูหราของย่านนี้ ก่อนเดินทางกลับ

ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Outer Market)

ที่อยู่

4 โจเมะ สึกิจิ เขตชูโอ โตเกียว

งบประมาณคร่าวๆ สำหรับ 3 วัน 2 คืน

▶ ค่าที่พัก: ประมาณ 8,000 – 15,000 เยนต่อคืน (ขึ้นอยู่กับประเภทที่พัก)

▶ ค่าอาหาร: ประมาณ 3,000 – 6,000 เยนต่อวัน

▶ ค่าเดินทาง: ประมาณ 1,500 – 2,000 เยนต่อวัน (ใช้บัตรโดยสาร Tokyo Subway Ticket จะคุ้มค่ากว่า)

▶ ค่าเข้าชมสถานที่: ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไป

 

💰ค่าใช้จ่ายโดยรวม   ประมาณ 37,500 – 69,000 เยน (10,000 – 16,000 บาท) ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

🐙Model Course 2025: คันไซ (Kansai) 4 วัน 3 คืน

ภูมิภาคคันไซเป็นอีกหนึ่งจุดหมายยอดนิยมสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น แพลนเที่ยวญี่ปุ่น 4 วัน 3 คืนนี้ จะพาไปสำรวจเมืองสำคัญอย่างโอซาก้า เกียวโต นารา และโกเบ ซึ่งแต่ละเมืองมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา

Day 1🐙 โอซาก้า

เริ่มต้นการเดินทางที่โอซาก้า (Osaka) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและความบันเทิง เยี่ยมชมปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สัญลักษณ์สำคัญของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ จากนั้นเดินทางสู่ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) แหล่งรวมร้านอาหารริมคลองที่มีป้ายไฟนีออนขนาดใหญ่เป็นสัญลักษณ์ ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ เช่น ทาโกะยากิ (Takoyaki) โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) และคุชิคัตสึ (Kushikatsu) หากชอบสวนสนุก Universal Studios Japan ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้เวลาตลอดวัน

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

ที่อยู่

1 โจเมะ โดทงโบริ เขตชูโอ โอซาก้า

Day 2🐙 เกียวโต

เดินทางสู่เกียวโต (Kyoto) อดีตเมืองหลวงเก่าที่ยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมวัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) หรือวัดน้ำใส วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา พร้อมชมทิวทัศน์สวยงาม จากนั้นเดินทางไปยังอาราชิยามะ (Arashiyama) เดินเล่นในป่าไผ่ซากาโนะ (Sagano Bamboo Forest) และชมสะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ในช่วงเย็น สำรวจย่านกิออน (Gion) ซึ่งเป็นย่านเกอิชาแบบดั้งเดิม อาจมีโอกาสได้พบเห็นเกอิชาหรือไมโกะเดินตามถนน

ป่าไผ่ซากาโนะ (Sagano Bamboo Forest)

การเดินทาง

ซางาโอกุรายามะ ทาบุจิยามาโจ เขตอุเกียว เกียวโต

Day 3🐙 นารา

เดินทางจากเกียวโตไปยังนารา (Nara) ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่นาน ที่นี่มีชื่อเสียงจากสวนสาธารณะที่มีกวางจำนวนมากเดินเตร่อย่างอิสระและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว สามารถซื้ออาหารสำหรับกวางและป้อนให้พวกมันได้ จากนั้นเยี่ยมชมวัดโทไดจิ (Todai-ji Temple) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไดบุทสึขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของทริปญี่ปุ่นในภูมิภาคคันไซที่พลาดไม่ได้

สวนนารา (Nara Park)

ที่อยู่

คาสุงาโนะโจ นารา จังหวัดนารา

Day 4🐙 โกเบ

เดินทางสู่โกเบ (Kobe) เมืองท่าที่ทันสมัยและมีบรรยากาศโรแมนติก เริ่มต้นด้วยการเดินเล่นในย่านคิตาโนะ (Kitano Ijinkan-gai) ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านพักสไตล์ตะวันตกเก่าแก่ที่สวยงาม จากนั้น แวะชมทิวทัศน์ที่ท่าเรือโกเบ พร้อมชมโกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง และเมื่อมาถึงโกเบแล้วก็ไม่ควรพลาดการลิ้มลองเนื้อโกเบ (Kobe Beef) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

โกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower)

ที่อยู่

5-5 ฮาโตบาโจ เขตชูโอ โกเบ จังหวัดเฮียวโกะ

งบประมาณคร่าวๆ สำหรับ 4 วัน 3 คืน

▶ ค่าที่พัก: ประมาณ 7,000 – 14,000 เยนต่อคืน

▶ ค่าอาหาร: ประมาณ 3,500 – 7,000 เยนต่อวัน (รวมค่าเนื้อโกเบ)

▶ ค่าเดินทาง: ประมาณ 1,500 – 2,500 เยนต่อวัน (แนะนำ Kansai Area Pass)

▶ ค่าเข้าชมสถานที่: ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไป

 

💰ค่าใช้จ่ายโดยรวม  ประมาณ 48,000 – 92,000 เยน (11,000 – 22,000 บาท) ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

🐮Model Course 2025: ฮอกไกโด (Hokkaido) 6 วัน 5 คืน

ฮอกไกโดในฤดูหนาวเป็นดินแดนแห่งความฝันสำหรับผู้ที่ชอบหิมะและกิจกรรมฤดูหนาว การเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นสู่เกาะทางเหนือสุดแห่งนี้ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม จะได้สัมผัสกับเทศกาลหิมะอันยิ่งใหญ่ กิจกรรมกีฬาฤดูหนาว และทัศนียภาพที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน แพลนเที่ยวญี่ปุ่น 6 วัน 5 คืนนี้ จะพาไปสัมผัสประสบการณ์ฤดูหนาวที่น่าจดจำในฮอกไกโด

Day 1🐮 ซัปโปโร

หลังจากเดินทางถึงสนามบินชิโตเซะ (Chitose Airport) ก็เดินทางเข้าสู่ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลักของฮอกไกโด และเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมฤดูหนาวในภูมิภาคนี้ สำรวจใจกลางเมือง เยี่ยมชมสวนโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นสถานที่จัดเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) อันโด่งดัง

สวนโอโดริ (Odori Park)

ที่อยู่

โอโดรินิชิ 1-12 โจเมะ เขตชูโอ ซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด

Day 2🐮 ซัปโปโร

เยี่ยมชมทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building) สถาปัตยกรรมอิฐแดงที่สวยงาม จากนั้นเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Garden & Museum) เรียนรู้ประวัติศาสตร์การผลิตเบียร์และลิ้มลองเบียร์สดใหม่ หรือเยี่ยมชมโรงงานช็อกโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ พาร์ค (Shiroi Koibito Park) เพื่อชมกระบวนการผลิตขนมคุกกี้ชื่อดัง และเพลิดเพลินกับบรรยากาศราวกับเทพนิยาย

ชิโรอิ โคอิบิโตะ พาร์ค (Shiroi Koibito Park)

ที่อยู่

2 โจเมะ 2-11-36 มิยาโนซาวะ เขตนิชิ ซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด

Day 3🐮 โอตารุ

วันที่สามเดินทางไปยังโอตารุ (Otaru) เมืองท่าเล็กๆ ที่มีเสน่ห์โรแมนติก เดินเล่นริมคลองโอตารุ (Otaru Canal) ชมอาคารอิฐเก่าแก่ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง และฟังเสียงดนตรีจากกล่องดนตรีที่พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum) และที่ไม่ควรพลาดคือการลิ้มลองซูชิและอาหารทะเลอื่นๆ ที่สดใหม่จากตลาดท้องถิ่น เพราะเมืองโอตารุนี้ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องแก้วและอาหารทะเลสดใหม่

คลองโอตารุ (Otaru Canal)

ที่อยู่

มินาโตะมาจิ โอตารุ จังหวัดฮอกไกโด

Day 4 & Day 5🐮 นิเซโกะและฟูราโนะ

เดินทางไปยังนิเซโกะ (Niseko) หรือฟูราโนะ (Furano) ซึ่งเป็นรีสอร์ตสกีระดับโลก นิเซโกะมีชื่อเสียงจาก Snow Powder หิมะที่ละเอียดนุ่ม เหมาะสำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ส่วนฟูราโนะมีเส้นทางสกีที่หลากหลายและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมฤดูหนาว เช่น การเล่นสกี สโนว์บอร์ด การนั่งกระเช้าขึ้นเขาชมวิว หรือการแช่ออนเซ็นกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ ถือเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว

นิเซโกะ แกรนด์ ฮิราฟุ (Niseko Grand Hirafu)

ที่อยู่

204 ยามาดะ คุตจัง เขตอาบุตะ จังหวัดฮอกไกโด

Day 6🐮 เดินทางกลับ

เดินทางกลับสู่สนามบินชิโตเซะเพื่อเดินทางกลับ หากมีเวลาสามารถแวะ ชิโตเซะ เอาท์เล็ต มอลล์ เรร่า (Chitose Outlet Mall Rera) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ เพื่อช้อปปิ้งหรือทานอาหารก่อนเดินทางกลับ นอกจากนี้ ภายในสนามบินยังมีโดราเอมอน วาคุวาคุ สกายพาร์ค (Doraemon Wakuwaku Sky Park) สามารถเดินเล่นถ่ายรูปกับตัวการ์ตูนโดราเอมอนและฉากจำลองจากการ์ตูน ซื้อของฝากจากร้านขายของที่ระลึก หรือจะแวะรอยส์ ช็อกโกแลต เวิลด์ (Royce Chocolate World) ชมกระบวนการผลิต และเลือกซื้อช็อกโกแลตเป็นของฝาก

ชิโตเซะ เอาท์เล็ต มอลล์ เรร่า (Chitose Outlet Mall Rera)

ที่อยู่

1-2-1 คาชิวะไดมินามิ ชิโตเสะ จังหวัดฮอกไกโด

งบประมาณคร่าวๆ สำหรับ 6 วัน 5 คืน

▶ ค่าที่พัก: ประมาณ 8,000 – 20,000 เยนต่อคืน (ราคาสูงขึ้นในรีสอร์ตสกี)

▶ ค่าอาหาร: ประมาณ 3,000 – 7,000 เยนต่อวัน

▶ ค่าเดินทาง: ประมาณ 2,000 – 4,000 เยนต่อวัน (แนะนำ Hokkaido Rail Pass)

▶ ค่ากิจกรรมฤดูหนาว: ค่าเช่าอุปกรณ์สกี/สโนว์บอร์ด, ค่าลิฟต์สกี (ประมาณ 5,000 – 10,000 เยนต่อวัน)

 

💰ค่าใช้จ่ายโดยรวม  ประมาณ 108,000 – 246,000 เยน (25,000 – 57,000 บาท) ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

คอร์สพิเศษและคำแนะนำเพิ่มเติม

นอกเหนือจากเส้นทางยอดนิยมในโตเกียว คันไซ และฮอกไกโด การเที่ยวญี่ปุ่นยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความสนใจเฉพาะตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นสายกินที่ชอบลิ้มลองอาหาร สายผจญภัยที่หลงใหลในธรรมชาติ หรือสายช้อปที่คอยอัพเดทเทรนใหม่ๆ ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ช่วยเติมเต็มทุกความต้องการ

ญี่ปุ่นสำหรับสายกิน😋

ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและหลากหลาย การเดินทางเพื่อชิมอาหาร (Food Trip) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

 

🍱 โอซาก้า > ได้รับฉายาว่าเป็นครัวของชาติ ไม่ควรพลาดโอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) ทาโกะยากิ (Takoyaki) คุชิคัตสึ (Kushikatsu) และโมเดิร์นยากิ (Modanyaki)

🍱 ฟุกุโอกะ > แหล่งรวมอาหารอร่อยทางตอนใต้ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะราเมงฮากาตะ (Hakata Ramen) และมัตสึมาเอะซูชิ (Mackerel Sushi)

🍱 ฮอกไกโด > สวรรค์ของอาหารทะเลสดใหม่ เช่น ปูยักษ์ หอยเชลล์ ซูชิ ซาชิมิ และราเมงมิโซะ รวมถึงผลิตภัณฑ์นมที่ขึ้นชื่อ

🍱 นาโกย่า > ลองเมนูท้องถิ่นอย่างฮิตสึมาบูชิ (Hitsumabushi) และเทบาซากิ (Tebasaki)

🍱 เกียวโต > สัมผัสอาหารเกียวโตแบบดั้งเดิม (Kyo-ryori) ซึ่งเน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลและรสชาติที่ละเอียดอ่อน รวมถึงชาเขียวและขนมญี่ปุ่น (Wagashi)

ญี่ปุ่นสำหรับสายธรรมชาติ🌳

สำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยในธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง การเที่ยวญี่ปุ่นก็มีตัวเลือกมากมายที่ตอบโจทย์ได้

 

🏞️ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง: เหมาะสำหรับการเดินป่า ปีนเขา และชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มาถึงก่อนใคร

🏞️ คามิโคจิ: หุบเขาที่สวยงามราวกับภาพวาดในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง เหมาะสำหรับการเดินป่าตามเส้นทางที่กำหนด

🏞️ ฮาโกเน่: ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ แช่ออนเซ็น และล่องเรือในทะเลสาบ

🏞️ เกาะยาคุชิมะ: เกาะมรดกโลกที่เต็มไปด้วยป่าโบราณและต้นสนอายุหลายพันปี เหมาะสำหรับนักเดินป่ามืออาชีพ

ญี่ปุ่นสำหรับสายช้อปปิ้ง🛍️

การเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อช้อปปิ้งเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวหลายคน ตั้งแต่สินค้าแบรนด์เนมไปจนถึงของฝากน่ารักๆ

 

🧣 โตเกียว (กินซ่า, ชินจูกุ, ชิบูย่า, ฮาราจูกุ): ศูนย์กลางแฟชั่นและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าแบรนด์เนม และร้านค้าแฟชั่นเฉพาะทางมากมาย

🧣 โอซาก้า (นัมบะ, อุเมดะ, ชินไซบาชิ): แหล่งรวมสินค้าแฟชั่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และของฝาก

🧣 ฟุกุโอกะ (เท็นจิน): ย่านช้อปปิ้งหลักของเมืองทางตอนใต้ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และร้านค้าท้องถิ่น

🧣 ห้างสรรพสินค้า Don Quijote: ร้านค้าลดราคาสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงเครื่องสำอางและของฝาก เปิดให้บริการเกือบตลอด 24 ชั่วโมงในหลายสาขา

สรุป

แพลนการเดินทางและค่าใช้จ่ายข้างต้นเป็นเพียงคำแนะนำและการประมาณค่าใช้จ่าย สามารถปรับเปลี่ยนแพลนได้ และค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน การเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่งดงาม ธรรมชาติที่หลากหลาย และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ไม่ว่าจะเป็นความคึกคักของโตเกียว ความสงบของเกียวโต หรือความงามของฮอกไกโดในแต่ละฤดู การวาง แพลนเที่ยวญี่ปุ่น อย่างรอบคอบ ตั้งแต่การกำหนดงบประมาณ การเลือกเส้นทาง ไปจนถึงการทำความเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น จะช่วยให้ทุกช่วงเวลาของการเดินทางเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันล้ำค่า