Mt. Fuji: รวมทุกเรื่องควรรู้ก่อนไปภูเขาไฟฟูจิ

การเที่ยวภูเขาไฟฟูจิไม่ใช่แค่การไปดูภูเขา แต่เป็นการสัมผัสหัวใจของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับวัฒนธรรม หรือวิวสวยๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก ภูเขาไฟฟูจิ ไม่ใช่แค่ภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น แต่ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวัฒนธรรม ความเชื่อ และธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของประเทศนี้ ความอลังการและความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิทำให้ผู้คนจากทั่วโลกอยากมาเห็นและสัมผัสความมหัศจรรย์นี้ไม่หยุดหย่อน
ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น
ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji / Fuji Mountain) มีเรื่องราวเก่าแก่และเต็มไปด้วยตำนานเล่าขาน ตำนานที่ดังที่สุดคือเรื่องของ เจ้าหญิงคางุยะ หรือ เทพธิดากระบอกไม้ไผ่ ที่เชื่อกันว่านางทิ้งยาวิเศษที่ทำให้เป็นอมตะไว้บนยอดเขา ทำให้ภูเขาไฟฟูจิกลายเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตอมตะและความศักดิ์สิทธิ์ คนญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่าเทพธิดาแห่งไฟ Konohanasakuya-hime เป็นผู้ปกป้องภูเขาลูกนี้ จึงเป็นที่มาของความเคารพและความเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง สมัยก่อนภูเขาไฟฟูจิยังเป็นที่ฝึกวิชาของพระและผู้แสวงบุญในลัทธิชูเก็นโด ที่เชื่อว่าการปีนขึ้นไปบนยอดเขาจะช่วยให้บรรลุธรรมและชำระล้างบาปได้

ภูเขาไฟฟูจิ ถูกยกย่องให้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นแรงบันดาลใจให้นักวาด นักกวี และนักเขียนมากมาย สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่แสดงถึงความงามอันยิ่งใหญ่ของฟูจิ ผลงานศิลปะชิ้นเอกอย่าง คลื่นยักษ์นอกฝั่งคานางาวะ (The Great Wave of Kanagawa) ของ คัตสึชิกะ โฮคุไซ (Katsushika Hokusai) ที่อยู่ในชุดภาพพิมพ์ไม้ ทัศนียภาพ 36 มุมของภูเขาฟูจิ (Thirty-six Views of Mount Fuji) ก็แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิที่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางคลื่นทะเล ภาพเหล่านี้ไม่ใช่แค่งานศิลปะ แต่ยังสะท้อนความผูกพันลึกซึ้งที่คนญี่ปุ่นมีต่อภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้ การได้เห็นภูเขาไฟฟูจิในวันที่อากาศแจ่มใสจากที่ไกลๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และเชื่อกันว่าจะนำโชคดีและพลังงานดีๆ มาให้

ด้วยความโดดเด่นทั้งด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ภูเขาไฟฟูจิและบริเวณรอบๆ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี 2013 ในชื่อ ฟูจิซัง (Fujisan) แหล่งศักดิ์สิทธิ์และบ่อเกิดแห่งศิลปะ การขึ้นทะเบียนนี้ไม่ได้รวมแค่ตัวภูเขา แต่ยังรวมถึงสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า และสถานที่อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับความเชื่อและประเพณีเกี่ยวกับฟูจิ การเป็นมรดกโลกแสดงให้เห็นว่าภูเขาไฟฟูจิมีคุณค่าต่อมวลมนุษยชาติอย่างมาก ทั้งในด้านศาสนา ประวัติศาสตร์ และการเป็นแรงบันดาลใจทางศิลปะที่ไม่สิ้นสุด

เตรียมตัวก่อนจะพิชิตภูเขาไฟฟูจิ
สำหรับคนที่ฝันอยากจะปีนยอดภูเขาไฟฟูจิ การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้สำเร็จและปลอดภัย การปีนเขาฟูจิเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายแต่ก็คุ้มค่าสุดๆ ต้องมีการวางแผนที่ดีมากๆ ทั้งเรื่องร่างกาย อุปกรณ์ และข้อมูลเส้นทาง
ฤดูปีนเขาภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุด
ฤดูปีนเขาของภูเขาไฟฟูจิ คือช่วงต้นเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน ในช่วงนี้เส้นทางปีนเขาจะเปิดอย่างเป็นทางการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น กระท่อมบนภูเขาเปิดให้บริการ ห้องน้ำ ร้านค้า และหน่วยพยาบาล และอากาศก็ค่อนข้างดีสำหรับการปีนเขา อย่างไรก็ตามภูเขาไฟฟูจิก็ยังเป็นภูเขาสูงที่อากาศเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แม้หน้าร้อนก็อาจเจอฝนหรืออากาศหนาวจัดได้ การปีนเขานอกฤดูนั้นอันตรายมากๆ เพราะทางอาจมีหิมะและน้ำแข็งปกคลุม ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ไม่มีกระท่อมเปิด และไม่แนะนำสำหรับมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์
4 เส้นทางปีนเขาภูเขาไฟฟูจิยอดนิยม
ภูเขาไฟฟูจิ มี 4 เส้นทางปีนเขายอดนิยม แต่ละเส้นทางมีความพิเศษ ความท้าทาย และใช้เวลาต่างกัน การเลือกเส้นทางที่เหมาะกับประสบการณ์และสภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ
🥾 เส้นทาง Yoshida
เป็นเส้นทางที่คนนิยมมากที่สุดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนที่ไม่ได้ปีนเขาบ่อยๆ เส้นทางนี้เริ่มที่สถานีที่ 5 ของ Yoshida Trail (ชื่อเต็มคือ Fuji Subaru Line 5th Station) มีร้านค้าและห้องน้ำตลอดทาง และมีกระท่อมบนภูเขาเยอะให้พักค้างคืนก่อนขึ้นยอดเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เส้นทาง Yoshida ยาวประมาณ 5.8 กิโลเมตร ใช้เวลาขึ้นประมาณ 5-7 ชั่วโมง และขาลงประมาณ 3-5 ชั่วโมง แม้จะดูง่ายที่สุด แต่ก็ยังต้องใช้ความอึดและความแข็งแรงพอสมควรนะ

🥾 เส้นทาง Subashiri
จะค่อนข้างเงียบกว่าเส้นทาง Yoshida เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติใกล้ๆ มากขึ้น เส้นทางนี้เริ่มที่สถานีที่ 5 ของ Subashiri Trail จุดเด่นคือมีป่าเยอะในช่วงแรกๆ ของเส้นทาง ทำให้ร่มรื่นและอากาศเย็นสบายกว่าทางอื่น เส้นทางนี้จะไปรวมกับเส้นทาง Yoshida ตรงช่วงใกล้ถึงสถานี 8.5 ทำให้คนปีนสามารถใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของเส้นทาง Yoshida ได้ในช่วงท้ายๆ ระยะทางประมาณ 5.0 กิโลเมตร ใช้เวลาขึ้นประมาณ 6-8 ชั่วโมง และลงประมาณ 3-5 ชั่วโมง

🥾 เส้นทาง Gotemba
เป็นเส้นทางที่ยาวและชันที่สุด เหมาะสำหรับนักปีนเขาที่มีประสบการณ์สูงและอยากลองความท้าทาย เส้นทางนี้เริ่มที่สถานีที่ 5 ของ Gotemba Trail ซึ่งเป็นสถานี 5 ที่อยู่ต่ำที่สุด ทำให้ต้องปีนเป็นระยะทางที่ยาวกว่าและใช้เวลานานกว่าทางอื่น เส้นทางนี้มีกระท่อมบนภูเขาไม่มากนักและสิ่งอำนวยความสะดวกมีจำกัด ระยะทางประมาณ 10.5 กิโลเมตร ใช้เวลาขึ้นประมาณ 7-10 ชั่วโมง และลงประมาณ 3-6 ชั่วโมง

🥾 เส้นทาง Fujinomiya
เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดและชันมาก แต่เริ่มต้นจากความสูงที่มากที่สุด ทำให้ใช้เวลาปีนไม่นานนัก เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยหรือไม่ต้องการเดินไกลๆ เส้นทางนี้เริ่มที่สถานีที่ 5 ของ Fujinomiya Trail มีกระท่อมบนภูเขาพอสมควร แต่ทางค่อนข้างเป็นหินและเดินยาก ระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร ใช้เวลาขึ้นประมาณ 4-7 ชั่วโมง และลงประมาณ 2-4 ชั่วโมง

อุปกรณ์จำเป็นสำหรับการปีนเขาภูเขาไฟฟูจิ
🗻 เสื้อผ้า: ควรใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ชั้นในควรเป็นผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี ชั้นกลางเป็นเสื้อวอร์มหรือเสื้อฟลีซ และชั้นนอกสุดเป็นเสื้อแจ็คเก็ตกันลมกันฝน ควรนำเสื้อผ้าที่อุ่นพอสำหรับอากาศที่อาจติดลบไปเผื่อด้วย
🗻 รองเท้าปีนเขา: ต้องเป็นรองเท้าที่แข็งแรง ข้อสูง กันน้ำ พื้นรองเท้าเกาะพื้นดี และใส่สบายมากๆ ควรลองใส่เดินก่อนวันจริงเพื่อไม่ให้รองเท้ากัด
🗻 ถุงมือและหมวก: ถุงมือที่อุ่นและกันลมได้ดี รวมถึงหมวกที่คลุมหัวและหูได้ เพื่อกันหนาว
🗻 ไฟฉายคาดศีรษะ: จำเป็นมากๆ สำหรับการปีนเขาตอนกลางคืน โดยเฉพาะถ้าอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขา
🗻 ไม้เท้าปีนเขา: ช่วยลดแรงกระแทกที่หัวเข่าและช่วยให้ทรงตัวได้ดี โดยเฉพาะตอนขาลง
🗻 น้ำดื่มและอาหาร: ควรพกน้ำดื่มไปอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อคน และอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ช็อกโกแลต ขนมธัญพืช หรือขนมปัง
🗻 อุปกรณ์กันแดด: แว่นกันแดด ครีมกันแดด และหมวกปีกกว้าง เพราะแสงแดดบนภูเขาสูงนั้นแรงมากๆ
🗻 ยาประจำตัวและชุดปฐมพยาบาลเล็กๆ: พลาสเตอร์ยา ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ หรือยาอื่นๆ ที่จำเป็น
🗻 ถุงขยะ: เพื่อเก็บขยะเองทั้งหมด และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมบนภูเขา
ก่อนปีนภูเขาไฟฟูจิควรเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 1-2 เดือนล่วงหน้า โดยเฉพาะการฝึกเดินขึ้นเขา วิ่ง หรือปั่นจักรยาน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อขา การพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันเดินทางก็สำคัญ นอกจากนี้ การเตรียมใจให้พร้อมรับมือกับความเหนื่อยล้า ความสูง และสภาพอากาศที่อาจเปลี่ยนกะทันหัน ก็จะช่วยให้การปีนเขาราบรื่นและสนุกขึ้น
5 กิจกรรมยอดนิยมรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ
นอกจากจะพิชิตยอดเขาแล้ว บริเวณรอบๆภูเขาไฟฟูจิยังมีที่เที่ยวและกิจกรรมน่าสนใจอีกเพียบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบปีนเขา แต่อยากสัมผัสความสวยงามของฟูจิในมุมต่างๆ หรือคนที่อยากพักผ่อนหย่อนใจหลังปีนเขา
ทะเลสาบทั้งห้าแห่งฟูจิ (Fuji Five Lakes)
กลุ่มทะเลสาบทั้งห้าแห่งฟูจิ เรียกสั้นๆ ว่า Fuji Five Lakes หรือ Fujigoko คือจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามและดังที่สุด ทะเลสาบแต่ละแห่งมีความพิเศษไม่เหมือนกัน และให้วิวฟูจิที่น่าประทับใจในแต่ละมุมมอง
🌊 ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko)
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองและเดินทางง่ายที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบ มีกิจกรรมให้เลือกทำเยอะ เช่น นั่งเรือชมวิวในทะเลสาบ นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปชมวิวจากมุมสูง นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ร้านอาหาร คาเฟ่ และโรงแรมรีสอร์ทที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ ให้เลือกพักมากมาย วิวของฟูจิกลับหัว (Sakasa Fuji) ที่สะท้อนในน้ำเป็นที่นิยมในการถ่ายรูปมากๆ

🌊 ทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko)
เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบและมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางแจ้งที่เน้นความสงบ เช่น พายเรือแคนู ตกปลา หรือเดินป่ารอบทะเลสาบเพื่อสัมผัสกับความบริสุทธิ์ของป่าไม้ที่อยู่ติดกับทะเลสาบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่า Aokigahara ที่มีชื่อเสียง

🌊 ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko)
เป็นทะเลสาบที่เล็กที่สุดในกลุ่ม แต่มีมุมมองของภูเขาไฟฟูจิที่เด่นชัด โดยมีภูเขาเล็กๆ ที่ชื่อ Mount Eboshi อยู่ด้านหน้าฟูจิ ทำให้ได้ภาพที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมในหมู่นักถ่ายภาพที่อยากได้รูปที่ไม่ซ้ำใคร

🌊 ทะเลสาบโมโตสุโกะ (Lake Motosuko)
เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดและน้ำใสสะอาดที่สุดในบรรดา 5 ทะเลสาบ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ เช่น ดำน้ำ พายเรือคายัค หรือวินด์เซิร์ฟ ภาพของภูเขาไฟฟูจิที่ปรากฏอยู่บนธนบัตร 1,000 เยนของญี่ปุ่นก็คือวิวจากทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความงดงามตามธรรมชาติของฟูจิ

🌊 ทะเลสาบยามานากาโกะ (Lake Yamanakako)
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองและเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในกลุ่มทะเลสาบฟูจิทั้งห้า เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นวิวที่สวยงามน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมทางน้ำยอดนิยม เช่น การเล่นเรือถีบ หรือการนั่งเรือชมวิว

สวนสนุก Fuji-Q Highland
สำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นและเครื่องเล่นหวาดเสียว สวนสนุก Fuji-Q Highland เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด สวนสนุกตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมีเครื่องเล่นหวาดเสียวที่ติดอันดับโลกหลายชนิด พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามเป็นฉากหลัง ทำให้การเล่นเครื่องเล่นยิ่งเพิ่มความตื่นเต้นและประทับใจ

หมู่บ้านบ่อน้ำพุร้อนโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai)
หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก คือกลุ่มบ่อน้ำพุธรรมชาติ 8 บ่อที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิและไหลซึมผ่านชั้นหินภูเขาไฟมานานหลายสิบปี ทำให้เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีน้ำใสสะอาด บรรยากาศของหมู่บ้านยังคงรักษาความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี มีบ้านเรือนเก่าแก่ ร้านค้าขายของที่ระลึกและอาหารพื้นเมืองให้เดินชมและชิม เป็นสถานที่ที่เงียบสงบและสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนและสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น

เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
เจดีย์ชูเรโตะ เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ให้ภาพภูเขาไฟฟูจิคู่กับเจดีย์สีแดงห้าชั้นและต้นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่เห็นได้บ่อยในโปสการ์ดและภาพถ่ายทั่วโลก การเดินขึ้นบันไดไปยังจุดชมวิวอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ภาพที่ได้เห็นนั้นคุ้มค่าแน่นอน

นั่งรถไฟชมวิวและกระเช้าลอยฟ้า
นอกจากการขับรถหรือเดินเที่ยวแล้ว การนั่งรถไฟสาย Fujikyuko Line หรือการขึ้นกระเช้าลอยฟ้า Kachi Kachi Yama Ropeway จะทำให้ได้ชมภูเขาไฟฟูจิและวิวรอบๆ จากมุมสูงที่แตกต่างออกไป การนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขา Tenjo-yama จะได้เห็นวิวของทะเลสาบคาวากูจิโกะและภูเขาไฟฟูจิแบบกว้างสุดตาที่สวยงามตระการตา เป็นวิธีที่สบายและได้ภาพสวยๆ ไม่แพ้กัน

ที่พักใกล้ภูเขาไฟฟูจิ
การเลือกที่พักที่เหมาะจะช่วยให้การเที่ยวภูเขาไฟฟูจิสมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะอยากพักหรูๆ สบายๆ หรือเน้นประหยัด ก็มีที่พักให้เลือกมากมายรอบๆภูเขาไฟฟูจิโดยเฉพาะแถวทะเลสาบทั้งห้า
โรงแรมและเรียวกังหรูหรา
บริเวณรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะและยามานากาโกะ มีโรงแรมและเรียวกังระดับหรูหรามากมายหลายแห่งที่มีห้องพักพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามตระการตา หลายแห่งมีบ่อออนเซ็น ทั้งแบบส่วนตัวและแบบรวมให้ได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังการเดินทาง หรือแช่น้ำร้อนไปพร้อมกับการชมวิวฟูจิที่อยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม การได้พักผ่อนในบรรยากาศแบบนี้จะช่วยให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริงและผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่
เกสต์เฮาส์และที่พักราคาประหยัด
สำหรับนักเดินทางที่มีงบประมาณจำกัด ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีเกสต์เฮาส์ โฮสเทล และโรงแรมขนาดเล็กราคาประหยัดให้เลือกมากมาย ที่พักเหล่านี้มักจะสะอาด ปลอดภัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน บางแห่งอาจมีห้องครัวให้ผู้เข้าพักทำอาหารเองได้ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทาง การพักที่พักแบบนี้จะช่วยประหยัดเงิน และยังเดินทางไปที่เที่ยวต่างๆ ได้สะดวก

กระท่อมบนภูเขา (Mountain Huts)
สำหรับคนที่วางแผนจะปีนภูเขาไฟฟูจิและอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขา การพักค้างคืนที่ กระท่อมบนภูเขา (Mountain Huts) เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยม กระท่อมเหล่านี้ตั้งอยู่ตามเส้นทางปีนเขาในระดับความสูงต่างๆ โดยเฉพาะที่สถานี 7, 8 และ 8.5 มีบริการอาหารง่ายๆ เช่น แกงกะหรี่ หรือบะหมี่ รวมถึงห้องพักรวมแบบเตียงสองชั้น การพักค้างคืนที่กระท่อมช่วยให้ร่างกายได้ปรับตัวกับความสูง และพักผ่อนเต็มที่ก่อนจะออกเดินทางอีกครั้ง
วิธีเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิ
การเดินทางจากโตเกียวไปภูเขาไฟฟูจิและบริเวณรอบๆ นั้นสะดวกสบายและมีหลายทางเลือก ขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถไฟ รถบัส หรือรถยนต์ส่วนตัว
นั่งรถไฟ
การเดินทางด้วยรถไฟเป็นวิธีที่เร็วและสะดวก หากมี JR Pass สามารถใช้บริการรถไฟ JR Chuo Line จากสถานี Shinjuku ในโตเกียว ไปลงที่สถานี Otsuki ซึ่งเป็นสถานีเปลี่ยนขบวน จากนั้นต่อรถไฟ Fujikyuko Line ไปยังสถานี Kawaguchiko ซึ่งเป็นสถานีปลายทางบริเวณทะเลสาบ หรือสถานีอื่นๆ ในบริเวณทะเลสาบ การนั่งรถไฟสาย Fujikyuko Line จะได้ชมวิวสวยๆ ตลอดทาง โดยเฉพาะตอนที่ภูเขาไฟฟูจิเริ่มปรากฏให้เห็นแต่ไกล ยิ่งทำให้การเดินทางน่าตื่นเต้นมากขึ้น

นั่งรถบัส
รถบัสเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยากเดินทางตรงไป Kawaguchiko หรือ Gotemba โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถหลายต่อ รถบัสมีให้บริการจากสถานีชินจูกุ ( Shinjuku Station) หรือสถานีโตเกียว (Tokyo Station) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-2 ชั่วโมงครึ่ง เป็นวิธีที่สะดวกสบาย ราคาไม่แพง และมักจะมีรอบรถให้บริการตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรถบัสที่วิ่งตรงไปสถานีที่ 5 ของแต่ละเส้นทางปีนเขาในช่วงฤดูปีนเขาด้วย

ขับรถส่วนตัว
การเช่ารถยนต์ส่วนตัว สะดวกตรงที่สามารถสำรวจพื้นที่รอบภูเขาไฟฟูจิได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะถ้าอยากแวะเที่ยวหลายๆ จุดที่อยู่นอกเส้นทางขนส่งสาธารณะ หรือเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ การขับรถจะทำให้แวะพักและถ่ายรูปตามจุดชมวิวต่างๆ ได้ตามใจชอบ แต่ก็ควรตรวจสอบสภาพการจราจร โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่อาจมีรถติด และที่จอดรถซึ่งอาจมีจำกัดและต้องเสียค่าใช้จ่ายในบางพื้นที่

10 ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ
เพื่อให้การเดินทางเที่ยวภูเขาไฟฟูจิเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และน่าประทับใจที่สุด มี 10 ข้อสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลย
อากาศเปลี่ยนบ่อย
อากาศบนภูเขาไฟฟูจิและรอบๆ สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วและคาดเดายากมาก แม้จะเป็นหน้าร้อน อุณหภูมิบนยอดเขาก็อาจลดลงต่ำมากๆ ได้ แถมยังมีลมแรง ฝนตก หรือแม้กระทั่งพายุ ควรเช็กพยากรณ์อากาศล่วงหน้าก่อนไป และเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถใส่หลายๆ ชั้น เพื่อปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศได้ตลอดเวลา รวมถึงเสื้อกันลมและเสื้อกันฝนที่ดีๆ เพื่อป้องกันภาวะตัวเย็นเกินไป
ความสูงของยอดเขา
ภูเขาไฟฟูจิสูงถึง 3,776 เมตรจากระดับน้ำทะเล การปีนขึ้นไปบนยอดเขาอาจทำให้เกิดโรคแพ้ความสมูงเฉียบพลัน (Acute Mountain Sickness: AMS) ได้ ซึ่งมีอาการตั้งแต่ปวดหัว คลื่นไส้ เวียนหัว เหนื่อยล้า ไปจนถึงอาการที่รุนแรงกว่า เพื่อป้องกันอาการแพ้ความสูง ควรปีนขึ้นไปอย่างช้าๆ ให้ร่างกายได้ปรับตัวกับความสูง โดยเฉพาะการพักค้างคืนที่กระท่อมบนภูเขาก่อนจะเดินทางต่อไปยังยอดเขา เน้นการดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงเหล้าและกาแฟ และถ้าเริ่มรู้สึกไม่สบายหรืออาการแย่ลง ให้รีบลงจากเขาโดยเร็วที่สุด
ข้อควรทำและข้อห้าม
ภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นมรดกโลก ควรรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสะอาดและความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ห้ามทิ้งขยะไม่ว่าจะชิ้นเล็กแค่ไหน ควรพกถุงขยะส่วนตัวเพื่อนำขยะทั้งหมดกลับลงมา ห้ามเก็บหิน ดิน หรืออะไรก็ตามจากภูเขา ห้ามก่อไฟ หรือทำอะไรก็ตามที่อาจทำให้ธรรมชาติเสียหาย และควรเดินอยู่ในเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น
จองที่พักและบริการต่างๆ ล่วงหน้า
ช่วงฤดูปีนเขาและช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น ที่พัก กระท่อมบนภูเขา และตั๋วรถต่างๆ มักจะเต็มเร็วมาก เพราะมีนักท่องเที่ยวเยอะทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติ ถ้าหากว่ามีแผนการเดินทางที่แน่นอน ควรจองที่พักและบริการต่างๆ ล่วงหน้าหลายเดือน โดยเฉพาะกระท่อมบนภูเขาที่มักจะถูกจองเต็มอย่างรวดเร็ว
ประกันการเดินทาง
การทำประกันการเดินทางเป็นสิ่งสำคัญมากๆ โดยเฉพาะถ้ามีแพลนจะปีนภูเขาไฟฟูจิ ประกันจะช่วยคุ้มครองในกรณีที่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วยกะทันหัน อุบัติเหตุระหว่างปีนเขา เที่ยวบินล่าช้า หรือของหาย ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

เตรียมเงินสดให้พอ
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ทันสมัย แต่ในบางพื้นที่บนภูเขาไฟฟูจิโดยเฉพาะกระท่อมบนภูเขา ร้านค้าเล็กๆ หรือร้านอาหารในหมู่บ้านเล็กๆ อาจไม่รับบัตรเครดิต ควรพกเงินสดติดตัวไปให้พอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าเข้าห้องน้ำ หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่นๆ
ศึกษาเส้นทางและแผนที่ให้ละเอียด
ก่อนออกเดินทาง ควรศึกษาข้อมูลเส้นทางปีนเขาที่คุณเลือกให้ละเอียด ทำความเข้าใจจุดพัก กระท่อมบนภูเขา ระยะทาง และความยากง่ายของแต่ละช่วง ควรมีแผนที่กระดาษติดตัวไว้เสมอ ถึงแม้จะมีแอปนำทางในมือถือก็ตาม เพื่อใช้ในกรณีที่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดีหรือแบตเตอรี่หมด
บอกแผนการเดินทาง
หากเดินทางไปปีนเขาคนเดียวหรือกับเพื่อนกลุ่มเล็กๆ ควรบอกแผนการเดินทางให้คนใกล้ชิดหรือคนที่ไว้ใจทราบ รวมถึงเส้นทางที่จะใช้และวันเวลาที่คาดว่าจะกลับ เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

พักผ่อนให้พอ
ก่อนเริ่มปีนภูเขาไฟฟูจิ ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 1-2 คืน เพื่อให้ร่างกายสดชื่นและพร้อมสำหรับการใช้พลังงานหนักๆ การนอนหลับไม่พออาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปีน และเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการแพ้ความสูง
เคารพนักปีนเขาคนอื่นและสิ่งแวดล้อม
การปีนภูเขาไฟฟูจิ เป็นกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากเข้าร่วม ควรเคารพนักปีนเขาคนอื่นๆ โดยไม่ส่งเสียงดังรบกวน ไม่กีดขวางเส้นทาง และรักษามารยาทในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ รวมถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยไม่ทิ้งขยะและไม่สร้างความเสียหายใดๆ ต่อธรรมชาติ

สรุป
ภูเขาไฟฟูจิ คือสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความศักดิ์สิทธิ์ และความงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล การได้มาเยือนที่นี่ไม่ว่าจะเป็นการพิชิตยอดเขา การสำรวจความงามรอบทะเลสาบทั้งห้า หรือการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ล้วนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและเติมเต็มหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นนักปีนเขามือฉมังหรือแค่นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงาม การเดินทางสู่ภูเขาไฟฟูจิจะเป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันแสนพิเศษในชีวิตอย่างแน่นอน
บทความแนะนำ
-
- Osaka
- Kyoto
- Others
เที่ยวคันไซ 4 วัน: เกียวโต โอซาก้า นารา มนต์เสน่ห์แห่งญี่ปุ่นตะวันตก
16.06.2025
-
- Tokyo
- Others
คอร์สเที่ยวโตเกียว-นิกโก้ 6 วัน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและมรดกโลก
15.06.2025
-
- Tokyo
- Osaka
- Hokkaido
- Kyoto
- Others
แพลนเที่ยวญี่ปุ่น 2025: เส้นทางยอดฮิต โตเกียว คันไซ ฮอกไกโด พร้อมงบประมาณคร่าวๆ
14.06.2025
-
- Others
15 สุดยอดขนมญี่ปุ่นที่ต้องซื้อกลับ อัพเดท 2025
13.06.2025
-
- Others
10 ร้านตามรอยขนมญี่ปุ่นทั่วญี่ปุ่น
13.06.2025
-
- Others
วากาชิ vs โยกาชิ ความแตกต่างของขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและแบบร่วมสมัย
13.06.2025