Orange Street โอซาก้า: แหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่ อาร์ตแกลเลอรี่ที่สายช้อปและสายอาร์ตต้องมา

02.04.2025
Orange Street โอซาก้า: แหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่ อาร์ตแกลเลอรี่ที่สายช้อปและสายอาร์ตต้องมา

หากพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในโตเกียว คงจะไม่พูดถึงย่านชิโมคิตะซาวะ (Shimokitazawa) ไม่ได้ รวมไปถึงย่านสุดเก๋อย่างชิบูย่า (Shibuya) ที่รวบรวมสินค้าที่ตอบสนองความเพลิดเพลินได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ดนตรี ความบันเทิง หรืออาหาร แต่วันนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Orange Street ในจังหวัดโอซาก้า (Osaka)

โอซาก้า ออเร้นจ์สตรีท (Osaka Orange Street)

โอซาก้า ออเร้นจ์สตรีท (Osaka Orange Street) ถนนสายช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในย่านโฮริเอะ (Horie) ของโอซาก้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอย่างชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และนัมบะ (Namba) เดิมทีถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในฐานะถนนที่มีร้านเฟอร์นิเจอร์เปิดอยู่มาก แต่ต่อมาก็ได้ปรับเปลี่ยนกลายเป็นศูนย์รวมร้านค้าแฟชั่น คาเฟ่ และของตกแต่งบ้าน การผสมผสานระหว่างร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่กับร้านค้าสมัยใหม่นี้ได้เปลี่ยนถนนสายนี้ให้กลายเป็นย่านวินเทจแต่ร่วมสมัย มีเสน่ห์ไม่แพ้สองย่านที่กล่าวมา และด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ถนนสายนี้เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอย่างมาก

แนะนำร้านค้าในโอซาก้า ออเร้นจ์สตรีท (Osaka Orange Street)

ร้าน BIOTOP

ในบทความนี้ขอหยิบยกร้านค้าที่น่าแวะสักสองสามร้านในถนนสายนี้ มาเริ่มกันที่ร้านแรก BIOTOP ไลฟ์สไตล์สโตร์ (Lifestyle Store) ที่มีสไตล์โดดเด่น สร้างบรรยากาศเหมือนโอเอซิสใจกลางเมือง เป็นร้านที่รวมเอาแฟชั่นอย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สินค้าไลฟ์สไตล์อย่างของใช้ในบ้าน ของตกแต่ง เครื่องเขียน หนังสือ เครื่องสำอางและเครื่องหอม รวมไปถึงต้นไม้ ดอกไม้และอุปกรณ์ทำสวน และจุดขายอีกอย่างนึงของร้านก็คือคาเฟ่และร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้า ให้คนที่มาเยือนได้อิ่มท้องพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศ เรียกได้ครบจบในร้านเดียว

ร้าน Kindal ร้าน Pigsty และร้าน JAM

ใครเป็นสายเสื้อผ้ามือสองของแนะนำร้าน Kindal ร้าน Pigsty และขอแถมร้าน JAM ไปอีกร้าน ซึ่งร้าน Kindal จะรวบรวมแบรนด์เนมมือสองชื่อดังทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแอคเซสซอรี่ไว้ ส่วนด้านร้าน Pigsty และร้าน JAM จะเน้นเสื้อผ้าสไตล์อเมริกันวินเทจ เช่น เสื้อยืดวงดนตรี แจ็คเก็ตยีนส์ กางเกงยีนส์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบสไตล์อเมริกันคลาสสิกหรือมองหาเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายความเก่าแต่เท่ แม้ร้านมือสองจะไม่เยอะเท่าย่าน Shimokitazawa ในโตเกียว แต่ที่ Orange Street ก็มีร้านขายเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีที่คัดสรรมาแล้วซ่อนตัวอยู่ ลองเดินสำรวจดูอาจเจอแบรนด์เนมมือสองหรือเสื้อผ้าวินเทจสภาพดีก็ได้นะ

ร้าน Journal Standard Furniture

มากันต่อกันที่ร้านสุดท้ายในวันนี้ Journal Standard Furniture สำหรับสายแต่งบ้านหรือใครที่สนใจเกี่ยวกับอินทีเรียสไตล์วินเทจอเมริกัน ห้ามพลาดที่จะแวะร้านนี้ เพราะทางร้านได้รวมเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ดีไซน์สวย มีเอกลักษณ์ ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายวินเทจอเมริกัน ความรู้สึกแบบอินดัสเทรียลและความร่วมสมัยที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน บางครั้งทางร้านมีวางขายสินค้าที่ออกแบบร่วมกับศิลปินหรือแบรนด์อื่นๆ อีกด้วย ใครที่กำลังหาของใช้ในบ้านเก๋ๆ ที่ไม่เหมือนใครต้องมาให้ได้สักครั้ง

สวนสาธารณะโฮริเอะ (Horie Park)

ย่านโฮริเอะไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงด้านเฟอร์นิเจอร์แต่ยังมีชื่อเสียงเรื่องความคิดสร้างสรรค์ จึงมีอาร์ตแกลเลอรี่ขนาดเล็กๆ ที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัย ภาพถ่ายหรืองานดีไซน์กระจายตัวอยู่ ใครที่ชอบเสพงานศิลป์หรืออยากเปลี่ยนมุมมองและหาไอเดียใหม่ๆ ถนนสายนี้ถือว่าเหมาะมาก และไม่ไกลจาก Orange Street จะเจอกับสวนสาธารณะโฮริเอะ (Horie Park) พื้นที่สีเขียวของย่านนี้ที่คนท้องถิ่นนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ บ้างพาลูกๆ มาวิ่งเล่น บ้างพาสัตว์เลี้ยงมาเดิน หรือมาปิกนิกสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติ หากแวะไปที่นี่อาจจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในย่านนี้มากขึ้นก็ได้นะ

แวะคุยสักนิด🐶🌸

นอกจากร้านค้าที่ได้แนะนำไปข้างบนยังมีร้านค้าและสถานที่ที่มีเอกลักษณ์และรอให้ทุกคนได้ไปเยี่ยมเยือนอีกหลายแห่ง หากใครกำลังมองหาที่เดินช้อปปิ้งหรือคาเฟ่เก๋ๆ หรือจะเดินพักผ่อนย่อนใจชมตึกรามบ้านช่องภายใต้บรรยากาศที่แตกต่างจากย่านช้อปปิ้งหลักอื่นๆ ของโอซาก้าและอยู่ไม่ไกลจากย่านนัมบะ ขอรับรองว่า Osaka Orange Street แห่งนี้จะทำให้ทุกคนหลงใหลไปกับความชิคและบรรยากาศที่ผสมผสานความคลาสสิคกับความทันสมัยแน่นอน

วิธีการเดินทาง

วิธีที่ 1 นั่งรถไฟใต้ดิน Osaka Metro Yotsubashi Line (สายสีน้ำเงิน)

  • สถานีต้นทาง: สถานี Namba
  • สถานีปลายทาง: สถานี Yotsubashi
  • ค่าโดยสารประมาณ: 190 เยน

 

วิธีที่ 2 นั่งรถไฟใต้ดิน Osaka Metro Midosuji Line (สายสีแดง)

  • สถานีต้นทาง: สถานี Umeda
  • สถานีปลายทาง: สถานี Shinsaibashi 
  • ค่าโดยสารประมาณ: 240 เยน

 

วิธีที่ 3 เดินเท้า

  • จากสถานี Namba ไปยังถนน Tachibana-dori
  • เวลาเดินทางประมาณ: 10-15 นาที

 

บทความแนะนำ บทความแนะนำ