ตะลุยหน้าร้อนญี่ปุ่น กับสถานที่ท่องเที่ยวบน 4 เกาะหลักและ 1 หมู่เกาะ

ตะลุยหน้าร้อนญี่ปุ่น กับสถานที่ท่องเที่ยวบน 4 เกาะหลักและ 1 หมู่เกาะ

หลายคนอาจเลี่ยงเที่ยวประเทศญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อน เนื่องมาจากอากาศที่ร้อนไม่แพ้กับประเทศไทย แต่ถึงอากาศจะฮอตแค่ไหนก็สู้ความฮอต ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวและเทศกาลฤดูร้อนของญี่ปุ่นไม่ได้ บทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจาก 4 เกาะหลักและ 1 หมู่เกาะของญี่ปุ่น มีอะไรไปบ้างอ่านกันเลย

ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)

เริ่มกันที่เกาะฮอกไกโด กับฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) เมืองฟุราโนะ (Furano) ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง หัวใจหลักของฟาร์มโทมิตะคือทุ่งลาเวนเดอร์ สามารถชมความงามของทุ่งลาเวนเดอร์ได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม แต่ช่วงที่บานสะพรั่งและมีสีม่วงสดใสคือประมาณเดือนกรกฎาคม ทิวทัศน์ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ตัดกับวิวเนินเขานั้น ช่างสวยงามไร้ที่ติ

 

วิธีการเดินทางไปฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)

  • เดินจากสถานี Nakafurano หรือสถานี Lavender Farm
  • ค่าเดินทางประมาณ: 0 เยน

เทศกาลเซ็นได ทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri)

ขยับลงมาที่เกาะฮอนชู เนื่องจากเป็นเกาะใหญ่ขอแนะนำสักสองที่จากเกาะนี้ ที่แรกคือเทศกาลเซ็นได ทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri) เมืองเซ็นได (Sendai) จัดขึ้นในช่วงวันที่ 6 ถึง 8 สิงหาคม ของทุกปี และคืนวันที่ 5 จะมีการแสดงดอกไม้ไฟที่เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล ช่วงนี้ทั่วทั้งเมืองจะถูกประดับประดาด้วยไม้ไผ่หลากสีสัน ทำให้ดูงดงามและมีชีวิตชีวา

 

วิธีการเดินทางไปเทศกาลเซ็นได ทานาบาตะ (Sendai Tanabata Matsuri)

  • เดินจากสถานี Sendai
  • ค่าเดินทางประมาณ: 0 เยน

เทศกาลกิอง (Gion Matsuri)

อีกหนึ่งที่เที่ยวบนเกาะฮอนชู ในภูมิภาคคันไซ ย่านกิอง (Gion) เกียวโต (Kyoto) ศูนย์กลางของเทศกาลกิอง (Gion Matsuri) ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเทศกาลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสามเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ในช่วงขบวนแห่ยามาโบโกะ (Yamaboko Junko parade) จะเต็มไปด้วยความคึกคักเป็นพิเศษ ช่วงสามวันก่อนวันงานจะมีการปิดถนนให้ผู้คนได้เดินเที่ยวชมรถแห่ยามาโบโกะอีกด้วย

 

วิธีการเดินทางไปเทศกาลกิอง (Gion Matsuri) โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma

  • สถานีต้นทาง: สถานี Kyoto
  • สถานีปลายทาง: สถานี Shijo
  • ค่าเดินทางประมาณ: 220 เยน

เทศกาลอาวะ โอโดริ (Awa Odori)

ลงมาที่เกาะชิโกกุ จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) มีการจัดเทศกาลอาวะ โอโดริ (Awa Odori) หนึ่งในเทศกาลเต้นรำที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ช่วงนี้ทั่วทั้งเมืองจะถูกโอบล้อมด้วยความคึกคักเร่าร้อน ดังนั้นถือเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดอย่างยิ่งในการมาเยือนโทคุชิมะในหน้าร้อนนี้ เพราะจะทำให้คุณสามารถลิ้มรสเสน่ห์ของเทศกาลฤดูร้อนได้อย่างเต็มที่

 

วิธีการเดินทางไปเทศกาลอาวะ โอโดริ (Awa Odori) 

  • เดินจากสถานี Tokushima
  • ค่าเดินทางประมาณ: 0 เยน

หุบเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge)

มาต่อกันที่เกาะคิวชู  สถานที่ต้องมาในหน้าร้อนนี้ก็คือหุบเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge) จังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) สถานที่แห่งนี้ได้รับการรับรองเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามและยังได้รับการรับรองเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติจากประเทศอีกด้วย และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือพายเรือเข้าไปใกล้ๆ น้ำตกมาไน (Manai Falls) ถูกรายล้อมไปด้วยละอองน้ำและความเขียวขจี ทำให้รู้สึกเย็นสบาย หรือจะเดินเล่นตามทางเดินก็ดีเช่นกัน

 

วิธีการเดินทางไปหุบเขาทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge)

  • เดินจาก Takachiho Bus Center
  • ค่าเดินทางประมาณ: 0 เยน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่า ชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

สุดท้ายคือหมู่เกาะโอกินาว่า และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของที่นี่ก็คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่า ชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเช็คลิสต์ที่ทุกคนต้องทำเมื่อมาที่นี่คือมาเจอกับฉลามวาฬขนาดมหึมา เรียกว่าใหญ่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีปลากระเบนแมนด้า หรือสัตว์หายากให้ชมด้วย

 

วิธีการเดินทางไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่า ชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

  • สถานีต้นทาง: สนามบิน Naha (OKA) หรือ Naha Bus Terminal
  • สถานีปลายทาง: ป้าย Kinen Koen-mae (Ocean Expo Park)
  • ค่าเดินทางประมาณ: 1,900 – 2,800 เยน

แวะคุยสักนิด🐶🌸

เป็นยังไงบ้างคะกับหกสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูร้อน จาก 4 เกาะหลักและ 1 หมู่เกาะของญี่ปุ่น ถึงอากาศจะร้อนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่เที่ยวหน้าร้อนของญี่ปุ่นก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กับฤดูอื่นๆ แต่ละสถานที่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวและการเฉลิมฉลองกับเทศกาลฤดูร้อนแตกต่างกันไป คนเขียนเลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะไปที่ไหน เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสก็ไปหมดเลย

บทความแนะนำ บทความแนะนำ