Ghibli Park นาโกย่า: สัมผัสอาณาจักรแห่งจินตนาการจากสตูดิโอจิบลิ

สวนสนุกจิบลิ (Ghibli Park) ตั้งอยู่ในบริเวณ Aichi Earth Expo Memorial Park เมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ที่นี่ไม่ใช่สวนสนุกแบบมีเครื่องเล่นหวาดเสียว แต่เป็นพื้นที่ที่จำลองโลกและบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์จากแอนิเมชั่นชื่อดังจากค่ายผลิตอนิเมะสัญชาติญี่ปุ่นสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ให้ผู้เข้าชมได้ถ่ายรูป เดินเล่นสัมผัสบรรยากาศที่เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในฉากต่างๆ ของแอนิเมชั่น โดยแบ่งออกเป็นโซนหลัก 5 โซน

โซนแรก Ghibli’s Grand Warehouse โซนในร่มที่ใหญ่ที่สุด เปรียบเสมือนเมืองย่อมๆ ที่รวมฉากจำลองจากหลายเรื่อง เช่น ทางเดินลึกลับจาก Spirited Away บ้านและสวนของ Arrietty หุ่นยนต์ทหารจาก Laputa: Castle in the Sky นอกจากนี้ยังมีห้องฉายหนังพิเศษ ร้านค้า ร้านอาหาร และสนามเด็กเล่นธีมแมวรถบัส (Catbus) เรียกได้ว่าอัดโลกแห่งการ์ตูนจิบลิมาไว้ให้โซนนี้เลย

โซนต่อมา Hill of Youth โซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจหลักจากเรื่อง Whisper of the Heart และ The Cat Returns จุดเด่นคือ “The World Emporium” ร้านขายของเก่าที่ปรากฏในเรื่อง Whisper of the Heart และ “Cat Bureau” อาคารขนาดเล็กจาก The Cat Returns นอกจากนี้ยังมีหอคอยลิฟต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากคอนเซ็ปต์โลกในจินตนาการแนววิทยาศาสตร์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19

โซนที่สามที่จะพูดถึงคือ Dondoko Forest โซนที่จำลองบรรยากาศชนบทจาก My Neighbor Totoro มบ้านของซัทสึกิและเมย์ที่สร้างขึ้นอย่างสมจริง ที่เนินเขาหลังบ้านมีโตโตโร่ตัวสูงถึง 5 เมตร เป็นรูปปั้นไม้ที่เด็กๆ สามารถเข้าไปเล่นได้

โซนที่สี่ Mononoke Village ทางสวนสนุกได้ยกฉากจากเรื่อง Princess Mononoke มาไว้ที่นี่ จำลองบรรยากาศหมู่บ้านทาทาระ (Tatara-ba) หรือหมู่บ้านช่างตีเหล็ก มีกระท่อม เครื่องเล่นที่ออกแบบเป็นเทพหมูป่า Okkoto (Lord Okkoto) และหอสังเกตการณ์ ในโซนนี้สามารถชิมโกเฮโมจิ (Goheimochi) อาหารท้องถิ่นที่ผู้คนในจังหวัดไอจิ กิฟุและนางาโนะคุ้นเคยได้อีกด้วย

และโซนสุดท้าย Valley of Witches โซนใหม่ล่าสุดที่เปิดเมื่อเดือนมีนาคม 2024 ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องที่มีเวทมนตร์เกี่ยวข้อง เช่น Kiki’s Delivery Service, Howl’s Moving Castle และ Earwig and the Witch จุดเด่นคือปราสาทฮาวล์ (Howl’s Castle) ร้านทำหมวกของโซฟี (Hatter’s Millinery) บ้านของกิกิ (Okino Residence) และร้านขนมปัง Guchokipanya Bakery รวมถึงร้านค้าและอาคารสไตล์ยุโรปอื่นๆ

สำหรับการจองตั๋ว สามารถจองผ่านออฟฟิเชียลเว็บไซต์ของ Ghibli Park ดำเนินการโดย LAWSON Ticket และ Klook ซึ่งจะเปิดขายในวันที่ 10 ของทุกเดือน เวลา 14:00 น. (ตามเวลาญี่ปุ่น) และต้องจองล่วงหน้า 2 เดือน (อย่างเช่น ถ้าจะเข้าสวนสนุกเดือนมิถุนายนก็ต้องจองตั๋วในวันที่ 10 ของเดือนเมษายน) ประเภทตั๋วมีทั้งหมด 3 ประเภท ราคาแตกต่างกันไปตามวันและช่วงอายุของผู้เข้าชม

ทริคเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจองตั๋วแนะนำให้ว่าแผนให้ดีว่าจะจองตั๋วแบบไหน เข้าโซนไหนกี่โมง เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการกรอก เพราะตั๋วหมดเร็วมาก อีกอย่างคือควรใส่รองเท้าที่เดินสบายเพราะสวนสนุกกว้างและใหญ่มาก ต้องพร้อมเดินสุดๆ อย่าลืมพกน้ำไปดื่มด้วย เพราะแถวร้านอาหารข้างในอาจยาวได้ และที่สำคัญภายในสวนสนุกมีพื้นที่ห้ามถ่ายรูปและวิดีโอโดยเด็ดขาด อย่าลืมสังเกตป้ายและปฏิบัติตามกันด้วยนะ

ทางนี้เองก็ดูแอนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิอยู่หลายเรื่อง แต่ที่ชอบมากและอยากไปมากที่สุดก็คือโซน Dondoko Forest ที่มีโตโตโร่ตัวใหญ่ค่ะ อีกที่คือปราสาทของฮาวล์ ได้เห็นขนาดไม่ใหญ่มากตอนนิทรรศการของสตูดิโอจิบลิมาจัดที่กรุงเทพฯ ก็ว่าสวยแล้วนะคะ อยากไปดูปราสาทฮาวล์ที่ใหญ่กว่านั้นอีกหลายเท่าใน Ghibli Park ขึ้นมาเลยค่ะ 

วิธีการเดินทางไปสวนสนุกจิบลิ (Ghibli Park)

วิธีที่1 นั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama (สายสีเหลือง)

• สถานีต้นทาง: สถานี Nagoya (เปลี่ยนสายไปรถไฟ Linimo ที่สถานี Fujigaoka)
• สถานีปลายทาง: สถานี Ai-Chikyuhaku-Kinen-Koen Station
• ค่าเดินทางประมาณ: 660 เยน

วิธีที่2 นั่งบัสจาก Meitetsu Bus Center

• สถานีต้นทาง: สถานี Nagoya (ที่ขึ้นรถชั้น 4 ช่อง 24)
• สถานีปลายทาง: สถานี Ai-Chikyuhaku-Kinen-Koen Station
• ค่าเดินทางประมาณ: 620 เยน

วิธีที่3 นั่งบัสจาก Chubu Centrair International Airport

• สถานีต้นทาง: Chubu Centrair International Airport Terminal 1
• สถานีปลายทาง: สถานี Ai-Chikyuhaku-Kinen-Koen Station
• ค่าเดินทางประมาณ: 1500-1600 เยน

วันทำการ: พุธ-จันทร์, ปิดทุกวันอังคาร (หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์อาจเปิดทำการ และหยุดในวันอื่น)

เวลาทำการ: จ.,พ.-ศ.10:00 น. – 17:00 น., ส.-อา.และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00-17:00 น. 

เว็บไซต์: ghibli-park.jp/en/ (ภาษาอังกฤษ)