รวม 10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ อิ่มใจกับดอกไม้นานาพรรณ

แม้จะตั้งอยู่ในมหานครอย่างชินจูกุ แต่ภายในพื้นที่กว้างขวางมีต้นซากุระปลูกอยู่กว่า 65 ชนิด จำนวนกว่า 1,000 ต้น เนื่องจากแต่ละชนิดมีช่วงเวลาบานแตกต่างกัน ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับซากุระได้ค่อนข้างนาน ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงปลายเดือนเมษายน จุดเด่นของที่นี่คือมีต้นซากุระหายากหลากหลายพันธุ์ให้ได้ชม ในช่วงนี้หลายคนนิยมมาปิกนิกกันที่นี่ นั่งกินเบนโตะไปด้วยชมซากุระไปด้วย ได้บรรยากาศสุดๆ แอบกระซิบว่า ห้ามพลาดชมวิวซิดาเระซากุระ (Shidare Zakura) ที่สะท้อนในสระน้ำของที่นี่นะ สวยสุดๆ

บนเส้นทางเล็กๆ ริมคลอง Biwako Sosui มีต้นซากุระปลูกอยู่หลายร้อยต้น เมื่อบานเต็มที่จะกลายเป็นอุโมงค์ซากุระที่งดงามมากสามารถเดินเล่นสบายๆ สัมผัสฤดูใบไม้ผลิในบรรยากาศสไตล์เกียวโต ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็เหมือนกับภาพวาด ช่วงที่กลีบซากุระร่วงปลิว ภาพกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงบนผิวน้ำก็สวยงามไม่แพ้กัน บริเวณโดยรอบมีร้านกาแฟ ร้านขายของกระจุกกระจิก และวัดเล็กๆ สามารถเที่ยวชมควบคู่กันไป

ที่นี่ เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งชมซากุระอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ต้นซากุระประมาณ 30,000 ต้น จะค่อยๆ บานตามลำดับตามระดับความสูง ภาพภูเขาทั้งลูกที่ถูกย้อมด้วยสีชมพูอ่อนๆ นั้นช่างงดงามตระการตาจริงๆ นอกจากนั้น ที่นี่ยังถูกกล่าวขานในบทกวีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นคนที่หลงใหลในธรรมชาติ หรือคนที่หลงใหลในบทกวี ต่างพลาดไม่ได้ที่จะมาเยือนที่นี่

เป็นแหล่งชมซากุระที่เป็นตัวแทนของภูมิภาคโทโฮคุ มีต้นซากุระประมาณ 2,600 ต้น โดยเฉพาะ ฮานาอิคาดะ (Hanaikada) หรือแพดอกไม้ที่เกิดจากกลีบซากุระที่ร่วงหล่นลงบนผิวน้ำในคูรอบปราสาท งดงามจนต้องหยุดหายใจ ทิวทัศน์ซากุระที่มีภูเขาอิวากิถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเป็นฉากหลังก็พิเศษไม่เหมือนใคร ในช่วงกลางคืนมีการประดับไฟ ทำให้บรรยากาศดูราวกับอยู่ในโลกแฟนตาซี

ถนนสายบ้านพักซามูไรที่สวยงาม ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกียวโตน้อยแห่งมิชิโนคุ และถูกกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ มีบรรยากาศที่เงียบสงบ สามารถเพลิดเพลินกับการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และซากุระ ต้นซิดาเระซากุระประมาณ 400 ต้นที่ปลูกอยู่ที่นี่ เมื่อบานเต็มที่ จะมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยเอโดะ นอกจากนี้ยังมีแนวต้นซากุระโซเมอิโยชิโนะริมแม่น้ำ Hinokinai ซึ่งอยู่ใกล้เคียง

สวนสนุกที่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ในฤดุใบไม้ผลิต้นชิบะซากุระกว่า 8 แสนต้น บานสะพรั่งบนพื้นที่กว้างใหญ่บริเวณเชิงภูเขาฟูจิ ราวกับเป็นพรมสีชมพูและสีม่วงอันงดงาม ทิวทัศน์อันน่าทึ่งของชิบะซากุระที่มีภูเขาฟูจิอันยิ่งใหญ่ที่ยังคงมีหิมะปกคลุมเป็นฉากหลัง เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่อื่น นอกจากชิบะซากุระ ยังสามารถชมดอกไม้ชนิดอื่นๆ เช่น อะนีโมเนะ หรือมิตสึบะสึกิ บานในช่วงนี้ด้วย

สวนสาธารณะของรัฐขนาดใหญ่ที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ดอกเนโมฟิลาประมาณ 5.3 ล้านต้นที่ปกคลุมทั่วเนินเขา Mihara-shi no Oka สร้างสรรค์โลกสีฟ้าที่สวยงาม ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับท้องฟ้าและทะเล เป็นทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิขนาดใหญ่ที่แตกต่างจากซากุระอย่างสิ้นเชิง นอกจากช่วงเนโมฟิลาแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล เช่น ดอกนาร์ซิสซัสและทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิ โคเคียในฤดูใบไม้ร่วง มีเส้นทางปั่นจักรยาน และสวนสนุก Pleasure Garden ด้วย

สวนสวนสนุกที่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล แต่ช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศมาเยือน คือ ช่วงที่ดอกฟูจิกว่า 350 ต้นบานสะพรั่งงดงาม โดยเฉพาะซุ้มดอกฟูจิโนดะนางะ (Noda Nagafuji) ขนาดใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 160 ปี และอุโมงค์ดอกฟูจิสีขาวที่ยาวประมาณ 80 เมตร เรียกได้ว่าสวยจนแทบหยุดหายใจ วิวดอกฟูจิยามค่ำคืนที่มีการประดับไฟงดงามราวกับความฝันเองก็งดงามไม่แพ้กัน จนถูกขนานนามว่าเป็นดอกฟูจิแห่งปาฏิหาริย์

ทิวทัศน์ปราสาทฮิเมจิสีขาวสวยงามราวกับนกกระสา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติและมรดกโลก ผสมผสานกับซากุระที่แต่งแต้มสีสันให้ เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่น ซากุระประมาณ 1,000 ต้นที่บานสะพรั่งพร้อมฉากหลังเป็นปราสาทนั้นงดงามมาก บริเวณรอบปราสาทฮิเมจิมีสวนญี่ปุ่นที่สวยงามชื่อ Kokoen ในช่วงซากุระบาน แนะนำให้เที่ยวชมทั้งปราสาทและสวนไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังสามารถลิ้มรสอาหารท้องถิ่น เช่น โอเด้งฮิเมจิ หรือปลาไหลย่างได้ด้วย

ต้นซากุระโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดังในจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามต้นซากุระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ชมซากุระที่สวยงามมากๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกบานเต็มที่ ต้นซากุระเบนิชิดาเระ (Beni Shidare Sakura) ขนาดใหญ่ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติแห่งชาติ คาดว่ามีอายุมากกว่า 1,000 ปี ภาพดอกไม้สีชมพูอ่อนนับไม่ถ้วนที่ร่วงหล่นลงมาจากกิ่งก้านที่แผ่ขยายไปทั้งสี่ทิศราวกับน้ำตก สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามที่มีพลังของซากุระต้นเดียว

เรียกได้ว่าฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่ธรรมชาติได้ตื่นขึ้น และทำให้ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยความชีวิตชีวา 10 สถานที่ที่ได้แนะนำไปในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นสถานที่ที่จะได้สัมผัสเสน่ห์ของฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นได้จากหลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสามเมืองเก่ากับดอกไม้ ปราสาทกับดอกไม้ หรือทุ่งดอกไม้ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ล้วนแต่เป็นความสวยงามที่น่าหลงใหล รอให้เราได้ไปสัมผัส