3 ขั้นตอนง่ายๆ แลก JR Pass ที่สนามบินนาริตะ ฮาเนดะ คันไซ

26.06.2025
3 ขั้นตอนง่ายๆ แลก JR Pass ที่สนามบินนาริตะ ฮาเนดะ คันไซ

หลังจากนั่งเครื่องมาหลายชั่วโมงจนมาถึงญี่ปุ่น สิ่งที่อยากทำมากที่สุดแน่นอนว่าต้องเป็นการเดินทางเข้าที่พักให้เร็วที่สุด เพื่อฝากกระเป๋าหรือพักผ่อน หรือไม่ก็อยากรีบไปเที่ยวให้สมกับการรอคอยใช่ไหมคะ การที่เราสามารถแลก JR Pass ที่สนามบินได้เลยทันทีช่วยให้ประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ แล้วไปตามหาที่แลกตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ หลายคนพอแลกพาสเสร็จก็ใช้เดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมือง หรือถ้ามีแพลนจะเดินทางออกนอกเมืองด้วยชินคันเซ็นก็สามารถจองตั๋วได้เลย แล้วพิกัดแลก JR Pass ที่สนามบินอยู่ตรงไหนบ้าง เรารวบรวมมาให้แล้วค่ะ

3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการแลก JR Pass ที่สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ และสนามบินคันไซ (KIX)

ขั้นตอนที่ 1 เตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนไปที่เคาน์เตอร์

ก่อนที่จะเดินดุ่ยๆ เข้าไปที่เคาน์เตอร์แลก JR Pass สิ่งสำคัญคือการเตรียมเอกสารให้พร้อม ถ้าเอกสารไม่ครบ อาจจะต้องเสียเวลาเตรียมหรือค้นหาในกระเป๋าใหม่ หรือแย่สุดคืออดแลกพาสเลยนะ

 

📄Exchange Order
Exchange Order คือเอกสารที่สำคัญที่สุดที่ได้รับหลังจากซื้อ JR Pass ล่วงหน้า หรือบางทีก็อาจจะเป็น QR Code หรือ E-ticket ที่อยู่ในมือถือ สามารถปริ้นท์ออกมาเตรียมไว้ให้พร้อมก็ได้

📄หนังสือเดินทาง (Passport)
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ ต้องเป็นเล่มจริงเท่านั้น และที่สำคัญคือต้องมีตราประทับ Temporary Visitor ยืนยันว่าเข้ามาแบบพำนักชั่วคราวอยู่ในพาสปอร์ตด้วย ถ้าไม่มีตราประทับนี้ ก็จะไม่สามารถแลก JR Pass ได้

📄ตั๋วเครื่องบินขาออก (บางกรณีอาจมีการขอดู)
แม้จะไม่ใช่เอกสารบังคับ แต่บางครั้งเจ้าหน้าที่อาจจะขอดูตั๋วเครื่องบินขากลับ เพื่อยืนยันว่าจะอยู่ในญี่ปุ่นตามเงื่อนไขของ JR Pass เตรียมไว้เผื่อจะดีที่สุด อาจจะเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือปริ้นออกมาเผื่อไว้ก็ได้

ขั้นตอนที่ 2 มองหา JR East Travel Service Center หรือ JR Ticket Office (Midori no madoguchi)

เมื่อเตรียมเอกสารพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาไปหาจุดแลก JR Pass ที่สนามบินจะมีเคาน์เตอร์ให้บริการแลก JR Pass หลักๆ อยู่ที่อาคารผู้โดยสาร

 

✈️สนามบินนาริตะ (Narita Airport)

 

1.Narita Airport Terminal 1 เคาน์เตอร์ JR EAST Travel Service Center จะอยู่ที่ชั้น B1F (ชั้นใต้ดิน 1) ใกล้กับทางเข้าสถานีรถไฟ JR Narita Airport

 

🕒เวลาทำการ ตั้งแต่ 8:30 – 19:00 น. (เปิดตลอดทั้งปี)

2.Narita Airport Terminal 2-3 เคาน์เตอร์ JR EAST Travel Service Center จะอยู่ที่ชั้น B1F (ชั้นใต้ดิน 1) ใกล้กับทางเข้าสถานีรถไฟ JR Airport Terminal 2 & 3

 

🕒เวลาทำการ ตั้งแต่ 8:30 – 20:00 น. (เปิดตลอดทั้งปี)

✈️สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport)

 

1.Haneda Airport Terminal 3 JR East Travel Service Center ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 (Arrival Lobby) อยู่ถัดจากประตูตรวจตั๋วของสถานี Tokyo Monorail  เป็นจุดหลักที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมไปแลก JR Pass กัน เพราะส่วนใหญ่ไฟลท์ระหว่างประเทศจะมาลงที่นี่

 

🕒เวลาทำการ ตั้งแต่ 6:45 – 20:00 น. (เปิดตลอดทั้งปี)

✈️สนามบินคันไซ  (KIX)

 

Kansai Airport เคาน์เตอร์แลก JR Pass จะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารสถานีรถไฟ สามารถมองหา JR Ticket Office (Midori no madoguchi หรือ เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว JR-WEST) ได้เลย

 

🕒เวลาทำการ ตั้งแต่ 05:30 – 23:00 น.

ขั้นตอนที่ 3 แลกพาส แจ้งวันเริ่มใช้ และรับตั๋วรถไฟ

เมื่อถึงคิวแล้วก็ยื่นเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบและดำเนินการให้ สิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้คือ

 

1.ระบุวันเริ่มต้นใช้งาน (Activation Date)
เจ้าหน้าที่จะถามว่าต้องการเริ่มใช้งาน JR Pass วันไหน ต้องแจ้งวันที่ต้องการให้พาสเริ่มนับวันใช้งาน เช่น ถ้าซื้อพาส 7 วัน และอยากให้เริ่มใช้วันนี้ พาสก็จะหมดอายุในอีก 7 วันข้างหน้า แนะนำว่าควรเริ่มใช้ในวันที่เราจะเดินทางไกลๆ หรือใช้รถไฟ JR เยอะๆ เพื่อให้ใช้พาสได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

2.รับ JR Pass ตัวจริง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะมอบ JR Pass ตัวจริงที่เป็นบัตรแข็ง หรืออาจจะเป็น E-ticket บนมือถือ ขึ้นอยู่กับระบบ พร้อมกับเอกสารยืนยันต่างๆ ให้

3.จองที่นั่งรถไฟ
ถ้ามีแผนจะใช้รถไฟชินคันเซ็น หรือรถไฟด่วนพิเศษในวันนั้น และต้องการจองที่นั่งแบบระบุที่นั่ง (Reserved Seat) ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลยในขั้นตอนนี้ เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วระบุที่นั่งให้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสำหรับผู้ถือ JR Pass สามารถแจ้งปลายทาง วันที่ และเวลาที่ต้องการได้เลย

ช่วงเวลาที่คนแน่นมากๆ มักจะเป็นช่วงเช้าหรือบ่ายที่เที่ยวบินลงเยอะๆ ถ้าไฟลท์มาถึงในช่วงนี้ ควรเผื่อเวลาสำหรับการต่อคิวไว้สัก 15-30 นาทีด้วยนะ

เคล็ดลับควรรู้ เพื่อการแลก JR Pass ที่ราบรื่น

นอกจากพิกัดและเวลาทำการแล้ว ยังมีทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้การแลก JR Pass เป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีปัญหา

1.ไปถึงให้ไว หรือเลี่ยงช่วงพีค

ช่วงเวลาที่คนนิยมไปแลก JR Pass มากที่สุดคือช่วงที่เที่ยวบินจากต่างประเทศลงเยอะๆ เช่น ช่วงเช้า หรือช่วงบ่ายแก่ๆ ถ้าเป็นไปได้ ลองวางแผนให้ไปถึงเคาน์เตอร์ในช่วงที่คนน้อยๆ หน่อย เช่น ช่วงกลางวัน หรือถ้าไฟลท์ลงตอนเช้าตรู่จริงๆ และเป็นช่วงพีค ก็เผื่อเวลาต่อคิวไว้สัก 15-30 นาที

2.เตรียมเอกสารให้พร้อมและหยิบง่าย

เมื่อถึงคิวแล้วไม่อยากเสียเวลาค้นหาพาสปอร์ต หรือ Exchange Order แนะนำให้เตรียมเอกสารทั้งหมดไว้ในซอง หรือแฟ้มที่หยิบง่ายๆ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ได้เลยทันที จะช่วยให้กระบวนการเร็วขึ้นมาก

3.มีวันเริ่มต้นใช้ที่แน่นอน

เจ้าหน้าที่จะถามต่อว่าต้องการเริ่มใช้ JR Pass วันไหน การที่ตอบวันเริ่มใช้งานทันที ไม่ต้องมานั่งคิดหน้าเคาน์เตอร์ จะช่วยประหยัดเวลาทั้งเราและคนข้างหลัง

4.สอบถามเส้นทางหรือจองที่นั่งได้เลย

ในขณะที่กำลังแลก JR Pass ถ้ามีแผนจะใช้รถไฟชินคันเซ็น หรือรถไฟด่วนพิเศษในวันนั้น สามารถสอบถามเส้นทาง หรือแจ้งความประสงค์ขอจองที่นั่ง (Reserved Seat) กับเจ้าหน้าที่ได้เลยในครั้งเดียว จะช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องไปเข้าคิวหรือจองที่ตู้อีกรอบอีกรอบ

อย่ากลัวที่จะถาม

ถ้ามีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจขั้นตอนไหน อย่าลังเลที่จะสอบถามเจ้าหน้าที่ สามารถสอบถามได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่ยินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ

บทความแนะนำ บทความแนะนำ