เปรียบเทียบ 10 บริษัทประกันยอดนิยม เที่ยวสบายใจ ไร้กังวล

11.07.2025(อัพเดตเมื่อ 16.07.2025)
เปรียบเทียบ 10 บริษัทประกันยอดนิยม เที่ยวสบายใจ ไร้กังวล

การไปเที่ยวญี่ปุ่นหรือต่างประเทศคงเป็นความฝันของหลายคนใช่ไหมคะ แต่ก่อนจะไปสนุกกับการเดินเล่นชมเมือง กินอาหารอร่อยๆ หรือแช่ออนเซ็นผ่อนคลาย สิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามเลยคือการซื้อประกันการเดินทางที่บางคนอาจคิดว่าไม่จำเป็น แต่บอกเลยว่านี่คือเกราะป้องกันชั้นดีที่จะทำให้ทริปราบรื่นและไร้กังวล

สารบัญ

Show More

ตารางเปรียบเทียบ 10 บริษัทประกันการเดินทาง พร้อมช่วงเบี้ยประกัน 7 วัน (โดยประมาณ)

10 บริษัทประกันภัยยอดนิยม

1. Sompo (ซมโปะ)

Sompo เป็นบริษัทประกันภัยสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก และได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความเชี่ยวชาญในตลาดญี่ปุ่นโดยตรง ทำให้ Sompo เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการซื้อประกันการเดินทาง

2. MSIG (เอ็ม เอส ไอ จี)

MSIG เป็นอีกหนึ่งบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงจากประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน และเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มองหาประกันการเดินทางที่น่าเชื่อถือและคุ้มครองครอบคลุม

3. Allianz Travel (อลิอันซ์ ทราเวล)

Allianz Travel เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Allianz ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านประกันภัยและการเงินรายใหญ่ของโลก มีชื่อเสียงด้านประกันการเดินทางที่ครอบคลุมและมีบริการช่วยเหลือที่แข็งแกร่ง

4. AXA (แอกซ่า ประกันภัย)

AXA เป็นกลุ่มบริษัทประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ระดับโลกจากฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดประกันการเดินทางที่มีเครือข่ายกว้างขวางและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

5. LUMA GO (ลูม่า โก)

LUMA GO เป็นผู้ให้บริการประกันการเดินทางที่เน้นความง่ายและความสะดวกในการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีแผนที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่

6. Tokio Marine Insurance (โตเกียวมารีนประกันภัย)

Tokio Marine Insurance เป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนาน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับประกันการเดินทางโดยเฉพาะสำหรับทริปญี่ปุ่น

7. FWD Insurance (เอฟดับบลิวดี ประกันภัย)

FWD Insurance เป็นบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและเน้นการใช้งานง่ายผ่านช่องทางดิจิทัล ทำให้ประกันการเดินทางของ FWD เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

8. Chubb Insurance (ชับบ์ ประกันภัย)

Chubb Insurance เป็นบริษัทประกันภัยระดับโลกที่มีเครือข่ายกว้างขวางและเป็นที่รู้จักในด้านความมั่นคงและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายประกันการเดินทางของ Chubb มักจะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและมีมาตรฐานสูง

9. Dhipaya Insurance (ทิพยประกันภัย)

ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากคนไทยมานาน มีผลิตภัณฑ์ประกันการเดินทางที่ตอบโจทย์นักเดินทางชาวไทยโดยเฉพาะ

10. Thaivivat Insurance (ไทยวิวัฒน์ประกันภัย)

ไทยวิวัฒน์ประกันภัย เป็นอีกหนึ่งบริษัทประกันภัยสัญชาติไทยที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะประกันการเดินทางแบบเปิด-ปิดที่โดดเด่น สามารถเปิด-ปิดความคุ้มครองได้ตามระยะเวลาที่ใช้งานจริง เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อยแต่ไม่ต้องการซื้อแผนรายปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางยุคใหม่

ทำไมต้องซื้อประกันการเดินทาง

ค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่นที่สูงลิ่ว

นี่คือเหตุผลอันดับแรกๆ ที่ต้องซื้อประกันการเดินทางติดตัวไว้ก่อนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีระบบสาธารณสุขที่ดีก็จริง แต่ว่าค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่นนั้นสูงมาก โดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่มีประกันสุขภาพของญี่ปุ่น การไปหาหมอ ตรวจโรค หรือต้องเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉินเพียงไม่กี่วัน อาจทำให้มีใช้ค่าจ่ายเพิ่มเติมทะลุหลักหมื่นหรือหลักแสนบาทได้สบายๆ อย่างไม่คาดคิด

แม้แต่การเจ็บป่วยเล็กน้อยอย่างไข้หวัด ท้องเสีย หรืออุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูไม่ร้ายแรงในไทย อาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในญี่ปุ่นได้ ดังนั้นการซื้อประกันการเดินทางจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ได้ ทำให้ไม่ต้องควักเงินก้อนโตออกจากกระเป๋า หรือนำเงินที่เตรียมไว้เที่ยวไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล

การเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างเดินทาง

การเดินทางนั้นมีความไม่แน่นอน ถึงแม้จะวางแผนมาอย่างดีก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ตลอดเวลา การมีประกันการเดินทางจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เช่น

 

✈️กระเป๋าเดินทางหาย หรือเสียหาย
หากสัมภาระเกิดสูญหาย หรือได้รับความเสียหายระหว่างการเดินทาง ประกันการเดินทางจะช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายให้

 

✈️เที่ยวบินล่าช้า หรือถูกยกเลิก
การที่เที่ยวบินดีเลย์หรือถูกยกเลิก เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ประกันการเดินทางบางแผนคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการล่าช้าของเครื่องบิน เช่น ค่าโรงแรมหรือค่าอาหารที่ต้องจ่ายเพิ่ม

 

✈️การเจ็บป่วยจนต้องยกเลิกทริป
หากเกิดเจ็บป่วยกะทันหันจนไม่สามารถเดินทางได้ หรือต้องกลับก่อนกำหนด ประกันการเดินทางจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน หรือค่าที่พัก

 

✈️อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ
แม้แต่การหกล้มระหว่างเดินเที่ยว หรืออุบัติเหตุที่ทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย ประกันการเดินทางก็สามารถดูแลค่ารักษาพยาบาลตรงส่วนนี้ได้

ความอุ่นใจตลอดทริป

การซื้อประกันการเดินทาง ก็เหมือนการซื้อความอุ่นใจตลอดทริป การที่รู้ว่ามีประกันคอยคุ้มครองอยู่ ทำให้สนุกกับการเที่ยวญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล และหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ต้องประสานงานกับโรงพยาบาล หรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน บริษัทประกันก็มักจะมีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การซื้อประกันการเดินทางนั้นมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและวงเงินที่สูงกว่า

ประกันการเดินทางคุ้มครองอะไรบ้าง

เมื่อตัดสินใจซื้อประกันการเดินทาง ก็ต้องมาทำความเข้าใจว่าประกันการเดินทางคุ้มครองอะไรบ้าง เพื่อให้เลือกแผนที่เหมาะสมและใช้ประโยชน์จากการทำประกันได้อย่างเต็มที่ โดยทั่วไปแล้ว ประกันการเดินทางจะให้ความคุ้มครองหลักๆ ดังนี้

ค่ารักษาพยาบาลและการส่งกลับประเทศ

เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของประกันการเดินทางเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปประเทศที่มีค่ารักษาพยาบาลสูงอย่างญี่ปุ่น การเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างทริปอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายมหาศาลได้

 

❤️‍🩹คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
ประกันการเดินทางจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยกะทันหัน หรืออุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นค่าปรึกษาแพทย์ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าห้องพักในโรงพยาบาล หรือค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่อง

 

 

❤️‍🩹คุ้มครองค่าเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน
หากเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่เหมาะสม หรือส่งกลับประเทศเพื่อการรักษา ประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนนี้

 

 

❤️‍🩹ครอบคลุมผู้ป่วยนอก-ผู้ป่วยใน
ไม่ว่าจะเจ็บป่วยเล็กน้อยจนต้องไปหาหมอนอกโรงพยาบาล หรืออาการหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล ประกันก็จะเข้ามาดูแลค่าใช้จ่าย

การเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวร

แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ประกันการเดินทางก็ให้ความคุ้มครองในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว

 

❤️‍🩹กรณีเสียชีวิต
หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยตามวงเงินที่ระบุไว้

 

❤️‍🩹กรณีทุพพลภาพถาวร
หากเกิดอุบัติเหตุจนทำให้ผู้เอาประกันภัยสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ประกันจะจ่ายเงินชดเชยตามเงื่อนไขในกรมธรรม์

ความล่าช้าและการสูญหายของสัมภาระ

อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดระหว่างการเดินทางและจะมองข้ามไปไม่ได้ก็คือ ปัญหาเรื่องสัมภาระ เป็นเรื่องที่พบบ่อยในการเดินทาง ประกันการเดินทางจึงเข้ามาช่วยคุ้มครองความเสียหายตรงส่วนนี้

 

💼สัมภาระสูญหาย หรือเสียหาย
ประกันจะคุ้มครองการสูญหายหรือความเสียหายของสัมภาระที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวที่อยู่ในสัมภาระด้วย

 

 

💼สัมภาระล่าช้า
หากกระเป๋าเดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด เช่น มาถึงหลังผู้เดินทาง 6 ชั่วโมงขึ้นไป ประกันบางแผนอาจจ่ายเงินชดเชยให้ เพื่อให้มีเงินไปซื้อของใช้จำเป็นชั่วคราว

ความล่าช้าของเที่ยวบินและแผนการเดินทาง

เรื่องเที่ยวบินล่าช้าหรือถูกยกเลิกเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก แต่ส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางมากๆ

 

🎫เที่ยวบินล่าช้า หรือถูกยกเลิก
หากเที่ยวบินเกิดความล่าช้าเกินกว่าที่กำหนดไว้ในเงื่อนไข เช่น 3-6 ชั่วโมงขึ้นไป หรือถูกยกเลิกกระทันหัน ประกันอาจจ่ายเงินชดเชยให้ เพื่อเป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก หรือค่าเดินทางที่จำเป็น

 

 

🎫การลดวันเดินทาง
หากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ต้องยกเลิกการเดินทางก่อนออกเดินทาง หรือต้องเดินทางกลับก่อนกำหนด ประกันการเดินทางบางแผนจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้ ค่าที่พักที่จองไว้

 

 

🎫การเลื่อน หรือการบอกเลิกการเดินทาง
หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ภัยธรรมชาติ หรือการก่อการร้ายในประเทศปลายทาง จนต้องเลื่อนหรือยกเลิกทริป ประกันอาจคุ้มครองค่าใช้จ่ายส่วนนี้

ความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น

หากผู้เอาประกันภัยไปก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอกโดยไม่ได้ตั้งใจในระหว่างการเดินทาง ประกันการเดินทางจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการชดเชยค่าเสียหายนั้น รวมถึงค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกฟ้องร้องด้วย

ปัจจัยสำคัญในการเลือกประกันการเดินทาง

เมื่อรู้แล้วว่าประกันการเดินทางคุ้มครองอะไรบ้าง ทีนี้มาดูกันว่าปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกซื้อประกันการเดินทางเพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมกับทริปและสไตล์การเดินทางมากที่สุด

วงเงินคุ้มครอง

วงเงินคุ้มครองเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกๆ ที่ต้องดูก่อนซื้อประกันการเดินทาง วงเงินคุ้มครองที่เหมาะสมจะช่วยให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองเพียงพอหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

 

💰ค่ารักษาพยาบาล
ญี่ปุ่นมีค่ารักษาพยาบาลสูงมาก แนะนำให้เลือกวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่สูงเพียงพอ อย่างน้อย 1,500,000 – 3,000,000 บาทขึ้นไป เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้หากต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

 

 

💰ความคุ้มครองอื่นๆ
ตรวจสอบวงเงินสำหรับความคุ้มครองอื่นๆ เช่น การเสียชีวิตและทุพพลภาพ ความล่าช้าของสัมภาระ หรือการยกเลิกทริป ว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม

กิจกรรมที่ทำ

แผนประกันการเดินทางบางแผนอาจมีข้อยกเว้นสำหรับกิจกรรมบางประเภท หรือต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ดังนั้นควรแจ้งรายละเอียดกิจกรรมที่จะทำในญี่ปุ่นให้ชัดเจน

 

⛷️กีฬาผาดโผน หรือผจญภัย
หากมีแผนจะเล่นสกี สโนว์บอร์ด ปีนเขา ดำน้ำ หรือกิจกรรมผาดโผนอื่นๆ ควรตรวจสอบว่าประกันการเดินทางที่เลือกคุ้มครองกิจกรรมเหล่านี้หรือไม่ บางแผนอาจไม่คุ้มครอง หรือต้องซื้อความคุ้มครองเสริม

 

 

⛷️การเดินทางระยะสั้น-ระยะยาว
ระยะเวลาของทริปก็มีผลต่อการเลือกแผน ประกันส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นแผนรายเที่ยว สำหรับทริปสั้นๆ และแผนรายปี สำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยๆ

โรคประจำตัวและเงื่อนไขสุขภาพ

สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีเงื่อนไขสุขภาพบางอย่าง ต้องตรวจสอบรายละเอียดของประกันการเดินทางอย่างละเอียด

 

💊การแจ้งข้อมูลด้านสุขภาพ
ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพและโรคประจำตัวตามความเป็นจริงทุกครั้งที่ซื้อประกัน เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการเคลมประกันในภายหลัง

 

 

💊โรคประจำตัวเดิม
ประกันการเดินทางส่วนใหญ่ จะไม่คุ้มครองโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ก่อนทำประกัน หรือภาวะที่เกิดจากโรคประจำตัวนั้นๆ อย่างไรก็ตาม มีบางแผนที่อาจให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับโรคประจำตัวบางประเภท ซึ่งควรสอบถามและทำความเข้าใจเงื่อนไขให้ละเอียด

 

 

💊การตั้งครรภ์
หากกำลังตั้งครรภ์ ควรตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์เป็นพิเศษว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่

ช่องทางการติดต่อฉุกเฉินและบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม.

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในต่างแดน การได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นการจะซื้อประกันควรสอบถามข้อมูลต่อไปนี้ให้ละเอียด

 

📞เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน
ตรวจสอบว่าบริษัทประกันการเดินทางมีเบอร์ติดต่อฉุกเฉินที่สามารถโทรหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากต่างประเทศ และสามารถสื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจได้

 

 

📞บริการช่วยเหลือ
สอบถามเกี่ยวกับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอื่นๆ เช่น การประสานงานกับโรงพยาบาลในพื้นที่ การส่งตัวผู้ป่วยกลับประเทศ หรือการให้คำแนะนำเบื้องต้น

เปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองจากหลายบริษัท

ประกันการเดินทางมีให้เลือกมากมาย แต่ละบริษัทก็มีแผนความคุ้มครองและราคาที่แตกต่างกันไป การเลือกประกันการเดินทางไม่ควรดูแค่ราคาที่ถูกที่สุดเท่านั้น แต่ควรเปรียบเทียบวงเงินคุ้มครองและเงื่อนไขต่างๆ ว่าตอบโจทย์ความต้องการหรือไม่

ก่อนตัดสินใจซื้อประกัน ควรอ่านรายละเอียดกรมธรรม์อย่างละเอียด ทำความเข้าใจข้อยกเว้นและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ช่วยเปรียบเทียบประกันการเดินทางจากหลายบริษัทได้ ทำให้สะดวกในการหาแผนที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการ

วิธีการเคลมประกันและสิ่งที่ต้องเตรียม

เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันระหว่างทริปญี่ปุ่นและจำเป็นต้องใช้ประกันการเดินทางการรู้วิธีการเคลมประกันที่ถูกต้องและเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

แจ้งบริษัทประกันภัยทันทีเมื่อเกิดเหตุ

ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเคลมประกันการเดินทาง ไม่ว่าจะเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ หรือสัมภาระมีปัญหา ควรติดต่อบริษัทประกันทันทีที่ทำได้ หรือภายในระยะเวลาที่กรมธรรม์กำหนดไว้ เนื่องจากบริษัทประกันส่วนใหญ่จะมีเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน หรือช่องทางติดต่อออนไลน์ สำหรับการแจ้งเหตุจากต่างประเทศโดยเฉพาะ ควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์นี้ไว้ในโทรศัพท์มือถือ หรือพกบัตรที่มีข้อมูลติดต่อฉุกเฉินติดตัวเสมอ และควรแจ้งรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ครบถ้วนและชัดเจนที่สุด เช่น วันที่ เวลา สถานที่ ลักษณะของเหตุการณ์ อาการบาดเจ็บหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น

เก็บหลักฐานให้ครบถ้วนและเป็นระบบ

การมีหลักฐานที่ครบถ้วนและเป็นระบบจะช่วยให้การพิจารณาเคลมประกันการเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีปัญหา

 

📃ใบรับรองแพทย์/ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
หากเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ต้องขอใบรับรองแพทย์ที่ระบุอาการ การวินิจฉัย และวันที่เข้ารับการรักษา พร้อมใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลและค่ายาทุกอย่าง และควรขอเป็นภาษาอังกฤษถ้าทำได้

 

 

📃รายงานจากตำรวจ/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น โดนโจรกรรม หรืออุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก ต้องแจ้งความกับตำรวจท้องถิ่น หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เกิดเหตุ และขอรายงานหรือเอกสารยืนยันเหตุการณ์นั้นๆ

📃หลักฐานการเดินทาง
สำเนาตั๋วเครื่องบิน (ขาไป-ขากลับ) บอร์ดดิ้งพาส หลักฐานการจองที่พัก หรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง

 

 

📃หลักฐานเกี่ยวกับสัมภาระ/ทรัพย์สิน
หากสัมภาระเสียหายหรือสูญหาย ต้องมีรายงานจากสายการบิน (Property Irregularity Report – PIR) หรือเอกสารยืนยันจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมรูปถ่ายความเสียหาย (ถ้ามี) และใบเสร็จรับเงินของทรัพย์สินที่เสียหายหรือสูญหาย

📃หนังสือรับรองการล่าช้าจากสายการบิน (สำหรับเที่ยวบิน/สัมภาระ)
หากเที่ยวบินล่าช้าหรือสัมภาระล่าช้า ต้องขอเอกสารยืนยันจากสายการบินหรือเจ้าหน้าที่สนามบินที่ระบุสาเหตุและระยะเวลาความล่าช้า

 

 

📃รูปถ่าย/วิดีโอ
ถ่ายรูปหรือวิดีโอของเหตุการณ์ อาการบาดเจ็บ ความเสียหายของสัมภาระ หรือสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม

ยื่นเอกสารเคลมตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนด

เมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้ว หรือเมื่อมีหลักฐานครบถ้วน ให้ติดต่อบริษัทประกันอีกครั้ง เพื่อสอบถามขั้นตอนการยื่นเอกสารเคลม และขอแบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มให้ถูกต้องและครบถ้วนตามความจริง รวบรวมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่เตรียมไว้ แนบไปพร้อมกับแบบฟอร์ม แล้วส่งเอกสารทั้งหมดให้กับบริษัทประกันการเดินทางตามช่องทางที่กำหนด เช่น ทางไปรษณีย์ หรืออัปโหลดผ่านระบบออนไลน์

  • Facebook
  • X