10 สุดยอดศาลเจ้าและวัด จุดเสริมพลังสุดปังในญี่ปุ่น

28.04.2025(อัพเดตเมื่อ 07.07.2025)
10 สุดยอดศาลเจ้าและวัด จุดเสริมพลังสุดปังในญี่ปุ่น

ทุกคนวางแผนเที่ยวกันอยู่หรือเปล่าคะ ที่ญี่ปุ่นมีศาลเจ้ากับวัดสวยๆ เยอะมาก จนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปที่ไหนต่อดีใช่ไหมคะ ครั้งนี้ เราได้เลือกศาลเจ้าและวัด 10 แห่ง ที่ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยจนต้องร้องว้าว และยังเป็นที่นิยมในฐานะจุดเสริมพลัง (Power Spot) อีกด้วย มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง

วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera)

วัดดังสุดคลาสสิกของเกียวโตที่คุ้นเคยกันดีจากสำนวน กระโดดลงจากเวทีคิโยมิสึ (Kiyomizu no butai kara tobioriru) เวทีคิโยมิสึที่สร้างยื่นออกมาจากหน้าผา สามารถมองเห็นวิวเมืองเกียวโตได้สุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ ในวัดคิโยมิสึยังมีจุดน่าสนใจอื่นๆ อีกเพียบ เช่น น้ำตกโอโตวะ (Otowa no Taki) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดเวลา

โดยเฉพาะช่วงซากุระกับใบไม้เปลี่ยนสีนี่สวยจนแทบลืมหายใจ แถมยังมี Light Up เปิดไฟตอนกลางคืนด้วย บรรยากาศแห่งความขลังของวัดอันเก่าแก่จะเปลี่ยนเป็นฟีลเทพนิยายเลยค่ะ รอบๆ วัดแถวถนนนิเน็นซากะ (Ninenzaka) ซันเน็นซากะ (Sannenzaka) ก็มีร้านขายของฝากน่ารักๆ กับคาเฟ่เพียบเลย ใส่กิโมโนเดินเล่นหรือถ่ายรูปแถวนี้ก็ฟินสุดๆ

วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera)

เวลาทำการ

ทุกวัน 6:00 – 18:00 น.

ที่อยู่

1-294 คิโยมิซุ เขตฮิงาชิยามะ เกียวโต

การเดินทาง

เดินจากสถานี Kiyomizu-Gojo ประมาณ 23 นาที

เว็บไซต์

www.kiyomizudera.or.jp

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริไทฉะ (Fushimi Inari Taisha)

ศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิสีแดงสดนับพันต้นที่เรียงรายต่อกันเป็นอุโมงค์ยาวสุดลูกหูลูกตา เมื่อก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปที่นี่สวยปัง ในฤดูฝนหรือวันที่ฟ้าครึ้มก็เป็นสถานที่ที่ให้บรรยากาศลึกลับน่าค้นหาและสวยงามมากๆ ได้มาเที่ยวครั้งหนึ่งจะไม่มีวันลืมบรรยากาศของที่นี่เลยล่ะ

เมื่อเดินผ่านอุโมงค์เสาโทริอิขึ้นไปบนยอดเขาอินาริ จะเจอวิวที่ต่างออกไป และมีศาลเจ้าเล็กๆ อีกมากมายตั้งอยู่ เนื่อจากยอดเขาอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 233 เมตร ถ้าเดินถึงยอดเขาก็เหมือนได้ไฮกิ้งเบาๆ ไปด้วย ใครที่ไปที่นี่ ลองยกหินโอโมคารุอิชิ ทำนายความปรารถนาดู ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริไทฉะ (Fushimi Inari Taisha)

เวลาทำการ

ตลอด 24 ชม.

ที่อยู่

68 ยาบุโนะอุจิโจ ฟุคาคุสะ เขตฟุชิมิ เกียวโต

การเดินทาง

เดินจากสถานี Fushimi-Inari ประมาณ 4 นาที

เว็บไซต์

https://inari.jp/

วัดโทไดจิ (Todai-ji)

วัดโทไดจิแห่งนี้ เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตแห่งนารา (Nara Daidutsu) พระพุทธรูปขนาดใหญ่ยักษ์ที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ภายในอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง วิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden) เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และถูกบันทึกเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกโดย UNESCO ด้วย

วัดโทไดจิอยู่ในสวนนารา (Nara Park) ซึ่งมีกวางป่าที่คุ้นเคยกับคนอาศัยอยู่เยอะมาก เรียกว่าถ้ามาที่นารา จะพลาดไม่ได้ที่ต้องถ่ายรูปคู่กับกวางโดยมีวิหารไดบุตสึเด็นเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ยังสามารถให้อาหารกวางได้ด้วย แต่ระวังกวางมารุมล้อม และอยากไปแกล้งหรือทำให้กวางโกรธล่ะ จะโดนโจมตีเอาได้

วัดโทไดจิ (Todai-ji)

เวลาทำการ

ทุกวัน 7:30 – 17:30 น.

ที่อยู่

406-1 โซชิโจ นารา จังหวัดนารา

การเดินทาง

เดินจากสถานี Nara ประมาณ 31 นาที

เว็บไซต์

www.todaiji.or.jp

ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)

ศาลเจ้าและเสาโทริอิสีแดงสดที่สร้างอยู่กลางทะเล พอน้ำขึ้นเต็มที่จะให้ความรู้สึกเหมือนเสาโทริอิกำลังลอยอยู่บนผิวน้ำเลยล่ะ สวยงามและดูลึกลับมากๆ เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น (Nihon Sankei) ที่นี่ยังเป็นมรดกโลกด้วยนะ

พอน้ำลง ก็สามารถเดินไปใกล้ๆ โคนเสาโทริอิได้ เป็นทิวทัศน์ที่ต่างจากตอนน้ำขึ้น ให้ความรู้สึกสวยงามไปอีกแบบ นอกจากนี้ การเดินชมระเบียงศาลเจ้าที่ทอดยาวเหนือน้ำก็สวยงามมีเสน่ห์มากไม่แพ้กัน บนเกาะมิยาจิมะ (Miyajima) ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ และของอร่อย เช่น หอยนางรม โมมิจิมันจู อีกเพียบเลย

ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)

เวลาทำการ

ทุกวัน 6:30 – 18:00 น.

ที่อยู่

1-1 มิยาจิมะโจ ฮัทสึไกชิ จังหวัดฮิโรชิม่า

การเดินทาง

เดินจากท่าเรือ Miyajima Port ประมาณ 15 นาที

เว็บไซต์

www.itsukushimajinja.jp

วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji)

โคมแดงขนาดใหญ่ที่ประตูคามินาริมงทางเข้าวัดเซ็นโซจิ คือสัญลักษณ์ของอาซากุสะ โตเกียว ที่นี่นับเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว และเต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศคึกคักมากๆ แค่เดินเล่นบนถนนนากามิเซะโดริที่ทอดยาวจากประตูไปถึงตัววัดก็สนุกแล้ว

ตามถนนนากามิเซะโดริ จะมีร้านขายขนมตั้งเรียงรายหลายร้าน ให้ผู้มาเยือนได้กินไปเดินเล่นไป เช่น เมล่อนปัง อาเกะมันจู และยังมีร้านขายของฝากสไตล์ญี่ปุ่น เช่น พัด ผ้าเทนุกุย (Tenigui) เรียงรายอยู่เพียบ หลังจากไหว้พระที่วิหารหลักเสร็จแล้ว จะเดินเล่นชมบรรยากาศเมืองเก่าแถวนั้น หรือจะไปโตเกียวสกายทรีที่อยู่ใกล้ๆ ก็ดีนะ

วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji)

เวลาทำการ

ตลอด 24 ชม.

ที่อยู่

2-3-1 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว

การเดินทาง

เดินจากสถานี Asakusa ประมาณ 1 นาที

เว็บไซต์

www.senso-ji.jp

ศาลเจ้าเมจิจิงกุ (Meiji Jingu)

ศาลเจ้าที่อยู่ติดกับย่านแฟชั่นอย่างฮาราจูกุ แต่พอเข้ามาข้างในกลับเหมือนอยู่ในป่าใหญ่ที่เงียบสงบและเขียวชอุ่ม ขัดกับบรรยากาศอันทันสมัยกับภายนอก ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่จักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็น นับเป็นโอเอซิสใจกลางเมืองที่ให้ผู้คนได้มาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์

ศาลเจ้าแห่งนี้ถีงจะอยู่กลางเมือง แต่ก็มีพื้นที่ที่นับว่าใหญ่เลยทีเดียว แค่ได้เดินเล่นในพื้นที่กว้างๆ ก็รู้สึกสดชื่นแล้วใช่ไหมล่ะ นอกจากจะไปไหว้พระที่อาคารหลักแล้ว หลายคนยังนิยมไปชมบ่อน้ำคิโยมาสะ (Kiyomasa’s Well) ที่เชื่อกันว่าเป็นจุดเสริมพลังด้วย ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าที่คนมาไหว้พระขอพรปีใหม่มากที่สุดในญี่ปุ่นด้วย

ศาลเจ้าเมจิจิงกุ (Meiji Jingu)

เวลาทำการ

ตลอด 24 ชม.

ที่อยู่

1-1 โยโยงิกามิโซโนะโจ เขตชิบูย่า โตเกียว

การเดินทาง

เดินจากสถานี Meiji-jingumae Harajuku ประมาณ 1 นาที

เว็บไซต์

www.meijijingu.or.jp

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji)

ตัวอาคารที่เรียกว่าชาริเด็นนั้น ส่องประกายสีทองอร่ามงามจับตา สมกับชื่อวัดที่คนไทยเรียกกันว่า วัดทอง โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มใส ภาพเงาของตัวอาคารสะท้อนบนสระน้ำที่เรียกกันว่าเคียวโกจิ หรือคินคะคุจิกลับหัวนั้น สวยงามเป็นพิเศษ เป็นวิวที่ใครๆ ก็รู้จักและอยากมาเห็นด้วยตาตัวเอง เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

นอกจากตัวอาคารสีทองแล้ว สวนที่ออกแบบมาอย่างสวยงามก็เป็นจุดที่จะพลาดชมไม่ได้ ที่นี่เดิมเป็นบ้านพักตากอากาศของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิตสึ (Ashikaga Yoshimitsu) ในสมัยมุโรมาจิ นับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเกียวโตและญี่ปุ่น ในแต่ละฤดู ความงามของสวนก็เปลี่ยนตามไป ถ้ามีโอกาสลองมาเดินเล่นในสวนที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล พร้อมสัมผัสความงามแบบญี่ปุ่นกันดูนะคะ

วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji)

เวลาทำการ

ทุกวัน 9:00 – 17:00 น.

ที่อยู่

1 คินคะคุจิโจ เขตคิตะ เกียวโต

การเดินทาง

เดินจากป้าย Sakuragicho ประมาณ 8 นาที

เว็บไซต์

www.shokoku-ji.jp/kinkakuji

ศาลเจ้านิกโกโทโชกู (Nikko Toshogu)

ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่โชกุนโทกุงาวะ อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu) ผู้ก่อตั้งรัฐบาลเอโดะ นอกจากนี้ศาลเจ้าที่นี่ยังได้ขึ้นเป็นมรดกโลกอีกด้วย ประตูโยเมมงที่สวยงามอลังการจนแทบลืมหายใจนั้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประตูที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น อาคารต่างๆ ที่ประดับประดาด้วยสีสันสดใสและทองคำเปลว ก็ดูยิ่งใหญ่มากๆ เมื่อมาเที่ยวที่นี่จะสัมผัสได้ทั้งความงามทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันทรงพลังเลยล่ะ

 รูปแกะสลักแต่ละชิ้นมีความหมายและเรื่องราวซ่อนอยู่ เช่น รูปแกะสลักลิงสามตัวที่ปิดตา ปิดปาก ปิดหู สื่อถึงการไม่ดู ไม่พูด ไม่ฟัง หรือรูปแกะสลักแมวนอนหลับที่อยู่ท่ามกลางดอกโบตั๋น เป็นการเดินชมศาลเจ้าที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดเสริมพลังชื่อดังในแถบคันโตด้วยนะ

ศาลเจ้านิกโกโทโชกู (Nikko Toshogu)

เวลาทำการ

ทุกวัน 9:00 – 16:00 น.

ที่อยู่

2301 ซันไน นิกโก้ จังหวัดโทชิกิ

การเดินทาง

นั่งบัสจากสถานี Tobu nikko ประมาณ 11 นาที

เว็บไซต์

www.toshogu.jp

ศาลเจ้าอิเสะจิงกู (Ise Jingu)

ศาลเจ้าแห่งนี้นับว่าเป็นศูนย์กลางของศาลเจ้าในญี่ปุ่น และเป็นศาลเจ้าที่มีความผูกพันกับราชวงศ์ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยศาลเจ้าหลักสองแห่ง คือ ศาลเจ้าชั้นใน (Naiku) ที่อุทิศให้กับเทพีอามาเทราสึ และศาลเจ้าชั้นนอก (Geku) ที่อุทิศให้กับเทพีโทโยะอุเกะ

อิเสะจิงกูมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางด้านจิตวิญญาณอย่างยิ่ง มีประเพณีชิกิเน็น เซงกู (hikinen Sengu) คือการรื้อสร้างอาคารศาลเจ้าและย้ายองค์เทพไปยังอาคารใหม่ที่สร้างขึ้นข้างๆ ทุก 20 ปี เพื่อแสดงถึงการสืบทอดและการต่ออายุ ศาลเจ้าแห่งนี้มีบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และเงียบสงบ บริเวณทางเข้าศาลเจ้าชั้นใน (Naiku) มีย่านโอฮาไรมาจิ และโอคาเงะ โยโกโจ ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของฝากมากมาย

ศาลเจ้าอิเสะจิงกู (Ise Jingu)

เวลาทำการ

ทุกวัน 05:00 – 17:00 น.

ที่อยู่

1 อุจิทาจิโจ อิเสะ จังหวัดมิเอะ

การเดินทาง

นั่งบัสจากสถานี Isuzugawa ประมาณ 18 นาที

เว็บไซต์

www.isejingu.or.jp

วัดโอคุโนะอิน (Kongobuji Okunoin)

ทางเดินยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นำไปสู่ “โกเบียว” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่า คูไค (โคโบไดชิ) ผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธนิกายชินงอน ยังคงเข้าสู่สมาธิชั่วนิรันดร์อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดทางเดินมีต้นสนซีดาร์ยักษ์อายุนับร้อยปี และสุสานหรือสถูปของเชื้อพระวงศ์ ขุนศึกซามูไร และบุคคลสำคัญต่างๆ กว่า 200,000 แห่ง เรียงรายอยู่ บรรยากาศดูลึกลับและขลังมากๆ

บรรยากาศเงียบสงบในตอนกลางวันก็สุดยอดแล้ว แต่ตอนกลางคืนก็มีไกด์พาเดินทัวร์ด้วยนะ ซึ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างและน่าอัศจรรย์ไปอีกแบบ เมื่อเดินไปจนสุดทาง จะถึงวิหารโทโรโด ซึ่งเป็นจุดหมายหลัก ภายในวิหารแห่งนี้มีตะเกียงทองแดงและตะเกียงกว่าหมื่นดวงที่บริจาคโดยผู้ศรัทธา แขวนส่องสว่างอยู่เต็มไปหมด ว่ากันว่ามีตะเกียงสองดวงที่จุดติดมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และ 14 บรรยากาศภายในวิหารนั้นน่าเลื่อมใสและน่าเกรงขามอย่างยิ่ง

โคยะซัง โอคุโนะอิน (Koyasan Okunoin)

เวลาทำการ

ทุกวัน 8:00 – 17:00 น.

ที่อยู่

โคยะซัง โคยะโจ เขตอิโตะ จังหวัดวากายาม่า

การเดินทาง

เดินจากป้าย Okunoin ประมาณ 12 นาที

เว็บไซต์

www.koyasan.or.jp

แวะคุยสักนิด🐶🌸

สถานที่ทั้ง 10 ที่ที่เราได้แนะนำไปนี้ ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิวสวยๆ และพลังงานของญี่ปุ่นค่ะ ทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า ถ้าอยากจะไปที่พิเศษๆ ลองดูลิสต์นี้เป็นไอเดียได้เลยนะคะ จะต้องเป็นอีกหนึ่งความทรงจำเที่ยวญี่ปุ่นที่ประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน

  • Facebook
  • X