10 สถานที่ สัมผัสประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

28.06.2025(อัพเดตเมื่อ 30.06.2025)
10 สถานที่ สัมผัสประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งสงครามในอดีต การรวมประเทศ การปิดประเทศ การเปิดประเทศไปจนถึงการขึ้นเป็นมหาอำนาจในการทำสงครามโลก การได้ไปเยือนที่เหล่านั้นก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ล้ำค่า แถมยังได้เรียนรู้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หากเป็นคนที่อินกับประวัติศาสตร์แล้ว บทความนี้น่าจะเพิ่มลิสต์สถานที่เที่ยวในญี่ปุ่นของทุกคนมากกว่าเดิม จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ไม่รอช้า ไปอ่านกันเลย

กิออน

กิออน (Gion) คือย่านเกอิชาชื่อดังของเกียวโตที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบญี่ปุ่นโบราณ ในยุคเฮอัน ที่นี่เคยเป็นที่พักสำหรับผู้แสวงบุญที่มาไหว้ศาลเจ้ายาซากะ แต่ต่อมากลายเป็นศูนย์รวมความบันเทิงชั้นสูงที่มีการแสดงของเกอิชา (Geisha) และ ไมโกะ (Maiko) หรือเกอิชาฝึกหัด

ปัจจุบัน กิออนเป็นอีกย่านที่คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่น เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณ ที่เรียกว่ามาจิยะ (Machiya) บางหลังเป็นโรงน้ำชาเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ที่นั่นมาหลายร้อยปี บางหลังก็เป็นร้านอาหารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม

ตกกลางคืน บรรยากาศของกิออนจะยิ่งสวยงามและน่าค้นหา แสงไฟจากโคมกระดาษจะส่องสว่างไปตามถนนเล็ก ๆ ถ้าโชคดีอาจได้เจอเกอิชาหรือไมโกะในชุดกิโมโนสวย ๆ เดินผ่านไป เพื่อไปแสดงศิลปะให้แขกชมที่โรงน้ำชา (Ochaya)

กิออน

เวลาทำการ

ตลอด 24 ชม.

ที่อยู่

570-2 กิออนมาจิ มินามิกาวะ เขตฮิงาชิยามะ เกียวโต

การเดินทาง

เดินจากสถานี Higashiyama ประมาณ 10 นาที

โดมปรมาณูและสวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า

โดมปรมาณู (Genbaku Dome)

โดมปรมาณู (Genbaku Dome) คือซากอาคารที่ยังหลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 อยู่ห่างจากจุดระเบิดแค่ 160 เมตรเท่านั้น สิ่งที่เห็นคือโครงเหล็กบิดเบี้ยวและผนังอิฐที่ยังคงอยู่ การที่ญี่ปุ่นเก็บซากอาคารนี้ไว้ ไม่ใช่เพื่อแสดงชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ แต่เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงความร้ายแรงของอาวุธนิวเคลียร์ และความสำคัญของสันติภาพ โดมปรมาณูนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO

สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)

สวนอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park) อยู่ติดกับโดมปรมาณู สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู และเพื่อสื่อสารข้อความแห่งสันติภาพไปทั่วโลก หัวใจหลักของสวนแห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum) ที่เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูอย่างละเอียด นอกจากความเป็นไปในช่วงสงครม ยังจะได้เห็นสิ่งของที่เหลือจากเหตุการณ์ รูปภาพน่าเศร้า และเรื่องราวส่วนตัวของผู้รอดชีวิต

อนุสาวรีย์สันติภาพเด็ก (Children's Peace Monument)

นอกจากนี้ยังมี อนุสาวรีย์สันติภาพเด็ก (Children’s Peace Monument) ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง ซาดาโกะ ซาซากิ เด็กหญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งจากกัมมันตภาพรังสี และเด็กคนอื่น ๆ ที่เสียชีวิต Flame of Peace ที่ถูกจุดขึ้นตั้งแต่ปี 1964 และดำเนินไปจนกว่าระเบิดนิวเคลียร์ลูกสุดท้ายบนโลกจะถูกทำลาย และ Hiroshima National Peace Memorial Hall for the Atomic Bomb Victims สถานที่ที่เก็บรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

โดมปรมาณู

เวลาทำการ

ตลอด 24 ชม.

ที่อยู่

1-1-10 โอเทมาจิ เขตนากะ จังหวัดฮิโรชิม่า

การเดินทาง

เดินจากสถานี Kamiyacho-nishi ประมาณ 4 นาที

เว็บไซต์

https://www.city.hiroshima.lg.jp/atomicbomb-peace/1036664/1021115/1015065.html

ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู

ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับโชกุนโทคุกาวะ อิเอยาสึ โชกุนคนแรกของตระกูลโทคุกาวะ ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถรวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จหลังผ่านพ้น สงครามกลางเมืองมาอย่างยาวนาน และได้ก่อตั้งระบอบโชกุนโทคุกาวะที่ปกครองญี่ปุ่นอย่างสงบสุขและรุ่งเรืองกว่า 260 ปี

ความยิ่งใหญ่ของศาลเจ้านี้สะท้อนถึงอำนาจของตระกูลโทคุกาวะได้อย่างชัดเจน ลูกชายของอิเอยาสึ ซึ่งก็คือโทคุกาวะ อิเอมิตสึ ได้บูรณะและขยายศาลเจ้านี้ให้ยิ่งใหญ่อลังการกว่าเดิม ทำให้ปัจจุบันศาลเจ้าเต็มไปด้วยอาคารไม้ที่แกะสลักอย่างสวยงาม ตกแต่งด้วยสีสันสดใส และประดับด้วยทองคำเปลวมากมาย ซึ่งต่างจากศาลเจ้าชินโตส่วนใหญ่ที่มักจะเรียบง่าย

ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู

เวลาทำการ

ทุกวัน 9:00–16:00 น.

ที่อยู่

2301 ซันไน นิกโก้ จังหวัดโทชิกิ

การเดินทาง

เดินจากป้าย Hotel Seikoenmae ประมาณ 5 นาที

เว็บไซต์

https://www.toshogu.jp/

ปราสาทอาซึจิ

ปราสาทอาซึจิ (Azuchi Castle) สร้างขึ้นระหว่างปี 1576-1579 บนเนินเขาอาซึจิ ริมทะเลสาบบิวะ จังหวัดชิกะ โดยโอดะ โนบุนางะ ไดเมียวผู้ทรงอำนาจที่สุดในยุคนั้น โนบุนางะไม่ได้สร้างปราสาทนี้แค่เป็นป้อมปราการทางทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ วิสัยทัศน์ และความรุ่งเรืองของยุคสมัยใหม่ที่เขากำลังสร้าง

สิ่งที่ทำให้ปราสาทอาซึจิแตกต่างและล้ำหน้ากว่าปราสาทอื่น ๆ ในยุคนั้นคือ เป็นปราสาทญี่ปุ่นแห่งแรกที่มีหอคอยหลักสูงถึง 7 ชั้น มีการใช้หินและไม้คุณภาพสูง โครงสร้างซับซ้อน และการตกแต่งภายในด้วยภาพเขียนและงานศิลปะชั้นสูง มีห้องรับรองแขกที่โอ่อ่า แถมยังตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมสำคัญและเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคคันไซและโทไก

ปราสาทอาซึจิ

เวลาทำการ

ทุกวัน 8:30–16:00 น.

ที่อยู่

6000 ชิโมโตโยอุระโจ อาซึจิ โอมิฮาจิมัง  จังหวัดชิกะ

การเดินทาง

เดินจากป้าย Azuchizyouato-mae ประมาณ 16 นาที

เว็บไซต์

https://www.azuchi-nobunaga.com/

คาโกชิม่า

คาโกชิม่า  (Kagoshima) ไม่ได้เป็นแค่เมืองที่มีธรรมชาติสวยงาม แต่ยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเป็นสถานที่ที่ยังคงเก็บเรื่องราวของสงครามไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้

พิพิธภัณฑ์การปฏิรูปเมจิ (Museum of the Meiji Restoration)

ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงบทบาทของแคว้นซัตสึมะ (คาโกชิม่า) ภายใต้การนำของซามูไรที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการเปิดประเทศและรับวิทยาการตะวันตก เหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การสิ้นสุดการปกครองของโชกุนโทคุกาวะ และการฟื้นฟูอำนาจของจักรพรรดิ รวมไปถึงการปฏิรูปเมจิที่ทำให้ญี่ปุ่นทันสมัยและแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด

พิพิธภัณฑ์สันติภาพชิรัน (Chiran Peace Museum for Kamikaze Pilots)

อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่สะท้อนถึงด้านมืดของ สงคราม และการเสียสละอันยิ่งใหญ่ อยู่ในเมืองชิรัน ซึ่งเคยเป็นฐานทัพอากาศลับของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พิพิธภัณฑ์สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักบินจากกองกำลังจู่โจมพิเศษคามิกาเซะ (Kamikaze) ซึ่งเป็นนักบินพลีชีพที่ขับเครื่องบินพุ่งชนเรือรบของฝ่ายสัมพันธมิตรในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบของข้าศึก

พิพิธภัณฑ์การปฏิรูปเมจิ (Museum of the Meiji Restoration)

เวลาทำการ

ทุกวัน 9:00–17:00 น.

ที่อยู่

23-1 คาจิยะโจ คาโกชิม่า จังหวัดคาโกชิม่า

การเดินทาง

เดินจากสถานี Kajiya-cho ประมาณ 6 นาที

เว็บไซต์

https://ishinfurusatokan.info/

ปราสาทสึรุกะ

ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือที่รู้จักกันในชื่อปราสาทนกกระเรียน มีเอกลักษณ์โดดเด่นคือกระเบื้องหลังคาสีแดง ซึ่งเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่มีหลังคาสีนี้ ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีความสวยงามและเป็นที่จดจำ ในอดีตปราสาทแห่งนี้เป็นที่พำนักของไดเมียวและเป็นป้อมปราการสำคัญที่ปกป้องแคว้น

ปราสาทสึรุกะ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสงครามโบชิน (Boshin War) ปี 1868 ซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างกองกำลังของโชกุนโทคุกาวะกับกองกำลังปฏิรูปเมจิที่ต้องการฟื้นฟูอำนาจจักรพรรดิ ภายในปราสาทจัดแสดงเรื่องราวของปราสาท ประวัติศาสตร์ของแคว้นไอสึ และเหตุการณ์สงครามโบชินอย่างละเอียด มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ของซามูไรในยุคนั้น อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงเรื่องราวของหน่วยเบียกโคไต (Byakkotai) หรือหน่วยพยัคฆ์ขาว ซึ่งเป็นกลุ่มซามูไรที่สละชีพเพื่อรักษาเกียรติของแคว้นในสงครามครั้งนั้น

ปราสาทสึรุกะ

เวลาทำการ

ทุกวัน 8:30–17:00 น.

ที่อยู่

1-1 โอเทมาจิ ไอสึ-วาคามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ

การเดินทาง

เดินจากป้าย from Tsurugajo West Exit ประมาณ 8 นาที

เว็บไซต์

https://www.tsurugajo.com/tsurugajo/

พิพิธภัณฑ์สันติภาพโอกินาว่า

พิพิธภัณฑ์สันติภาพโอกินาว่า (Okinawa Prefectural Peace Memorial Museum) สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากยุทธการโอกินาว่า (Battle of Okinawa) ในปี 1945 ซึ่งเป็นการรบที่ดุเดือดและนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งในสงครามแปซิฟิก ระหว่างกองทัพญี่ปุ่นกับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร การรบครั้งนี้ไม่ได้คร่าชีวิตทหารจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อพลเรือนชาวโอกินาว่า ซึ่งต้องตกอยู่ท่ามกลางสมรภูมิโดยตรงและเสียชีวิตไปกว่าหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมด

พื้นที่โดยรอบพิพิธภัณฑ์คือ สวนแห่งสันติภาพโอกินาว่า (Okinawa Peace Memorial Park) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาแห่งสันติภาพ (Cornerstone of Peace) สัญลักษณ์สำคัญที่นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นมักจะมาเยี่ยมชม

พิพิธภัณฑ์สันติภาพโอกินาว่า

เวลาทำการ

ทุกวัน 9:00–17:00 น.

ที่อยู่

614-1 มาบุคุนิ อิโตมัน จังหวัดโอกินาว่า

การเดินทาง

เดินจากป้าย Heiwa Kinendo Iriguchi ประมาณ 6 นาที

พิพิธภัณฑ์เอโดะโตเกียว

พิพิธภัณฑ์เอโดะโตเกียว (Edo-Tokyo Museum) ตั้งอยู่ในย่านเรียวโกคุ (Ryogoku) โตเกียว ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวของโตเกียวในอดีตได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ โดยเริ่มตั้งแต่ยุคเอโดะ (Edo Period) ซึ่งเป็นยุคที่โชกุนตระกูลโทคุกาวะเข้ามาปกครองญี่ปุ่น ไฮไลต์เด็ดของที่นี่คือแบบจำลองเมืองเอโดะขนาดใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คน ตลาด วัด ถนนหนทาง และปราสาทเอโดะในสมัยนั้น ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าเมืองนี้คึกคักและเจริญรุ่งเรืองขนาดไหน

นอกจากความรุ่งเรืองแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังบอกเล่าเรื่องราวของโตเกียวในช่วงเวลาที่ยากลำบาก นั่นคือช่วงสงครามและภัยพิบัติ มีการจัดแสดงเกี่ยวกับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ทำลายโตเกียวไปเกือบทั้งเมือง และการฟื้นฟูที่ตามมา นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการทิ้งระเบิดทางอากาศใส่โตเกียวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้เมืองเสียหายอย่างหนัก มีภาพถ่ายและข้อมูลที่แสดงถึงความพยายามของคนญี่ปุ่นในการเอาชีวิตรอดและการฟื้นฟูเมืองขึ้นมาใหม่จากเถ้าถ่าน

พิพิธภัณฑ์เอโดะ โตเกียว

เวลาทำการ

อ.-ศ., อา. 09:30-17:30 น., ส. 09:30-19:30 น., ปิดทุกวันจันทร์

ที่อยู่

1-4-1 โยโกะอามิ เขตสุมิดะ โตเกียว

การเดินทาง

เดินจากสถานี Ryogoku ประมาณ 1 นาที

เว็บไซต์

https://www.edo-tokyo-museum.or.jp/

ศาลเจ้าอิเสะ

ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) ประกอบด้วยศาลเจ้าหลักสองแห่งคือ โคไตจิงกู (Kotaijingu) หรือที่เรียกว่าศาลเจ้าชั้นใน (Naiku) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพีอามาเทราสึ (Amaterasu Omikami) เทพีแห่งดวงอาทิตย์ ผู้เป็นบรรพบุรุษของจักรพรรดิญี่ปุ่น และโทโยเกะไดจิงกู (Toyoukedaijingu) หรือศาลเจ้าชั้นนอก (Geku) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพีโทโยเกะ (Toyouke Omikami) เทพีแห่งพืชพรรณธัญญาหารและเครื่องนุ่งห่ม

สิ่งที่ทำให้ศาลเจ้าอิเสะมีความพิเศษและโดดเด่นไม่เหมือนใคร คือชิกิเน็น เซ็งงู (Shikinen Sengu) หรือการสร้างศาลเจ้าขึ้นใหม่ทั้งหมดทุก ๆ 20 ปี นั่นก็คือทุก ๆ 20 ปี อาคารศาลเจ้าทั้งหมดจะถูกรื้อถอนและสร้างขึ้นใหม่ในพื้นที่ว่างเปล่าที่อยู่ติดกัน โดยใช้วัสดุและวิธีการก่อสร้างแบบดั้งเดิมทุกประการ เพื่อรักษาเทคนิคการก่อสร้างแบบโบราณไว้ ส่งต่อความรู้จากรุ่นสู่รุ่น และเพื่อความบริสุทธิ์ของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชินโต

ศาลเจ้าอิเสะ

เวลาทำการ

ทุกวัน 5:00–19:00 น.

ที่อยู่

1 อุจิทาจิโจ อิเสะ จังหวัดมิเอะ

การเดินทาง

เดินจากป้าย Naiku-mae ประมาณ 11 นาที

เว็บไซต์

https://www.isejingu.or.jp/

นางาซากิ (Nagasaki)

เมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2 และความโหดร้ายของอาวุธนิวเคลียร์ เมืองนางาซากิ (Nagasaki) คืออีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ต้องจารึกไว้ แม้จะไม่โด่งดังเท่าฮิโรชิม่า แต่เรื่องราวของนางาซากิก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

จุดศูนย์กลางการระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Hypocenter Park)

ใจกลางความเสียหายจากระเบิดปรมาณูลูกที่สองที่ถูกทิ้งลงที่ญี่ปุ่น ระเบิดปรมาณู Fat Man ได้เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็นซากปรักหักพังในพริบตา ปัจจุบันบริเวณนี้ถูกปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะที่มีบรรยากาศสงบ และมีเสาหินสีดำขนาดใหญ่ปักตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงจุดศูนย์กลางการระเบิด ใกล้ ๆ กันมีเศษซากกำแพงที่ยังหลงเหลืออยู่จากเหตุการณ์ ให้เห็นถึงพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว

พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ (Nagasaki Atomic Bomb Museum)

อยู่ถัดไปไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางการระเบิด เป็นสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวของโศกนาฏกรรมครั้งนั้นอย่างละเอียดและสะเทือนใจ ตั้งแต่สภาพของเมืองนางาซากิก่อนเกิดเหตุการณ์ สาเหตุและช่วงเวลาของการทิ้งระเบิด ผลกระทบที่เกิดขึ้นในทันทีและในระยะยาวต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงเรื่องราวการฟื้นฟูเมือง

สวนสันติภาพนางาซากิ (Peace Park)

อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์และจุดศูนย์กลางการระเบิด สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับสันติภาพและรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือ รูปปั้นสันติภาพขนาดใหญ่ ที่มีท่าทางสื่อความหมายถึงสันติภาพ โดยมือขวาที่ชี้ขึ้นฟ้าสื่อถึงภัยคุกคามของอาวุธนิวเคลียร์ มือซ้ายที่เหยียดออกไปสื่อถึงสันติภาพ และดวงตาที่ปิดอยู่สื่อถึงการอธิษฐานขอพรให้ผู้ที่จากไป อีกหนึ่งจุดสำคัญในสวนก็คือบ่อน้ำแห่งสันติภาพ (Peace Fountain) ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ต้องทนทุกข์จากความกระหายน้ำหลังเหตุการณ์ระเบิด

จุดศูนย์กลางการระเบิดปรมาณู (Atomic Bomb Hypocenter Park)

เวลาทำการ

ตลอด 24 ชม.

ที่อยู่

มัตสึยามะโจ นางาซากิ จังหวัดนางาซากิ

การเดินทาง

เดินจากสถานี Peace Park ประมาณ 3 นาที

เว็บไซต์

https://www.soumu.go.jp/main_sosiki/daijinkanbou/sensai/virtual/memorialsite/nagasaki_nagasaki_006/index.html

  • Facebook
  • X