Street Food: ตะลุยกินสตรีทฟู้ดญี่ปุ่น ฉบับคนชอบเดินชิม สัมผัสบรรยากาศแบบจอยๆ

ใครเป็นมิตรรักนักเที่ยวโอซาก้าก็คงรู้กัน ไม่ว่ายังไงศูนย์กลางความอร่อยสุดคึกคักก็ต้องยกให้ โดทงโบริ (Dotonbori) แค่เดินเลียบริมคลองใต้ป้ายกูลิโกะตอนกลางคืนที่ไฟนีออนสว่างๆ กลิ่นของอร่อยสารพัดก็ตีอบอวลมาแบบไม่ให้หยุดพัก และเมื่อมาถึงที่นี่แล้วยังไงก็ห้ามพลาดร้านอร่อย

ทาโกะยากิ (Takoyaki)

ยกให้เป็นราชาแห่งสตรีทฟู้ดโอซาก้าเลย ทาโกะยากิร้อนๆ ที่ข้างนอกกรอบนิดๆ แต่ข้างในเยิ้มๆ นุ่มๆ นี่แหละสวรรค์ ทาโกยากิแต่ละร้านก็มีสูตรเด็ดต่างกันไป ทั้งแป้ง ไส้ ซอส หรือเครื่องเคียง ระหว่างรอคิวก็ยืนดูกระทะทรงกลมๆ ดูคนขายพลิกลูกทาโกะยากิไปมาก็เพลินแล้วค่ะ

โอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki)

แค่ได้ยินเสียงแห่งความอร่อยตอนที่โอโคโนมิยากิอยู่บนกระทะร้อนๆ กับกลิ่นหอมๆ นี่น้ำลายก็ไหลแล้ว กะหล่ำปลีซอยละเอียดผสมกับวัตถุดิบที่เราชอบ ทั้งหมูสามชั้นสไลด์ ปลาหมึก กุ้ง หรือหอยเชลล์ เอาไปย่างจนสุก เป็นหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่หาทานง่ายมากๆ ตามร้านริมทาง เป็นความอร่อยที่เรียบง่ายแต่อิ่มใจ กลิ่นซอส อาโอโนริ และขิงดองสีแดง นี่มันเข้ากันสุดๆ ไปเลย

คุชิคัตสึ (Kushikatsu)

ของทอดเสียบไม้ยอดนิยมอีกอย่างของโอซาก้า นำเนื้อสัตว์ ผัก หรืออาหารทะเลต่างๆ มาชุบแป้งทอดแล้วเสียบไม้ เสิร์ฟพร้อมซอสที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นของทอดร้อนๆ ที่ทานเพลินมากๆ ร้านคุชิคัตสึชื่อดังในย่านนี้ก็อย่างเช่น ร้าน Kushikatsu Daruma ที่ป้ายหน้าร้านเป็นรูปคุณลุงหน้าตาดุดันถือคุชิคัตสึสองไม้ไขว้กัน

 

วิธีการเดินทางไปโดทงโบริ (Dotonbori)

• สถานีต้นทาง: สถานี Umeda
• สถานีปลายทาง: สถานี Namba
• ค่าเดินทางประมาณ: 230 เยน

มาโตเกียวก็ต้องมาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคที่อาซากุสะ (Asakusa) ยิ่งได้เดินเข้าประตูคามินาริมงไปตามถนนนากามิเซะ (Nakamise) ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของฝากและร้านของอร่อยชวนให้แวะตลอดทาง รับรองว่าห้ามใจไม่ให้แวะทุกร้านแทบไม่ไหวเลยล่ะ เที่ยววัดเซ็นโซจิเสร็จแล้วก็ต้องไม่พลาดเดินกินของอร่อยๆ ไปด้วย

ยากิ ดังโงะ (Yaki Dango)

ดังโงะเนื้อนุ่มหนึบ เอาไปย่างหอมๆ แล้วทาด้วยซอสโชยุรสหวานเค็ม เยิ้มๆ เสียบไม้มาให้ทานง่ายๆ คำเดียว ความหนึบของโมจิกับความหอมไหม้ของซอสเข้ากันได้ดีเหลือเชื่อ ยิ่งถ้าได้ทานตอนเดินเหนื่อยๆ แล้วมีชาเขียวร้อนๆ จิบตามนะ เป็นการจับคู่ของกินที่เพอร์เฟกต์ที่สุด

อาเกะ มันจู (Agemanju)

อาเกะ มันจู (Agemanju) หรือมันจูแบบทอด ฟังดูไม่เหมือนมันจูที่เราคุ้นเคยเลยใช่ไหมคะ แต่ความดีงามมันอยู่ตรงความกรอบหอมของมันจูด้านนอกที่ผ่านการทอดมานี่แหละ ตัดกับไส้ถั่วแดงนุ่มๆ ข้างใน อร่อยจนหยุดไม่ได้จริงๆ แถมมีหลายรสชาติให้เลือกด้วยนะ เช่น ไส้ชาเขียว ไส้งาดำ ไส้มันหวาน ไส้ฟักทอง ไส้ครีมคัสตาร์ด หรืออย่างไส้ซากุระที่นิยมทำช่วงฤดูใบไม้ผลิเองก็มีนะ

จัมโบ้ เมลอนปัง (Jumbo Melon Pan)

อันนี้ทีเด็ดที่ใครหลายคนยังไม่รู้ว่าเป็นของขึ้นชื่ออาซากุสะ เมลอนปังชิ้นใหญ่ยักษ์ ขนาดใหญ่เท่าหน้าเลยก็ว่าได้ ข้างนอกเป็นแป้งคุ้กกี้กรอบๆ หวานๆ ส่วนเนื้อขนมปังด้านในก็นุ่มฟูมากๆ ยิ่งกินตอนอบเสร็จใหม่ๆ จะสัมผัสได้ถึงความกรอบและนุ่มฟูอย่างเต็มที่ กลิ่นหอมหวานเย้ายวนจนทนไม่ไหว กัดไปหนึ่งคำมีความสุขจนแก้มแทบปริเลยค่ะ

 

วิธีการเดินทางไปอาซากุสะ (Asakusa)

• สถานีต้นทาง: สถานี Tokyo
• สถานีปลายทาง: สถานี Asakusa
• ค่าเดินทางประมาณ: 320 เยน

มาเกียวโต เมืองแห่งวัฒนธรรม ก็มีแหล่งสตรีทฟู้ดที่พลาดไม่ได้เหมือนกัน นั่นก็คือ ตลาดนิชิกิ (nishiki market) หรือที่เรียกว่า ครัวแห่งเกียวโต เป็นถนนช้อปปิ้งมีหลังคาที่เต็มไปด้วยร้านค้าสารพัด ทั้งของสด ของดอง เดินเข้าไปแล้วเหมือนหลุดไปอีกโลก ช่วงนี้ร้านที่ขายของให้เดินกินได้เยอะมากๆ นักท่องเที่ยวเลยชอบมากัน

เกียวโต สึเคโมโนะ (Kyo Tsukemono)

เกียวโต สึเคโมโนะ (Kyo Tsukemono) หรือของดองเกียวโต ของดองสีสันสดใสที่ทำจาก เกียวยาไซ (Kyoyasai) ผักพื้นบ้านดั้งเดิมที่มีการเพาะปลูกสืบทอดกันมาในพื้นที่เกียวโต ผักดองหลากหลายชนิด ทำจากผักหลายประเภท และมีวิธีการดองหลายแบบ ทำให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป รสชาติมันสดชื่น เปรี้ยวๆ เค็มๆ เหมาะมากที่จะลองชิมระหว่างเดินเล่น

เกียวไค โนะ คุชิยากิ (Gyokai no Kushiyaki)

เกียวไค โนะ คุชิยากิ (Gyokai no Kushiyaki) หรือของทะเลย่างเสียบไม้ เห็นหมึกยักษ์ หอยเชลล์ เสียบไม้ ย่างกันร้อนๆ ตรงนั้น ปรุงรสแบบง่ายๆ ด้วยเกลือ หรือทาซอสบางๆ กลิ่นหอมๆ ช่างทรมานใจคนหิวจริงๆ แม้จะอยู่ที่เกียวโตแต่ก็ได้ลิ้มรสความสดของวัตถุดิบทะเลเต็มๆ คำ

ทาโกะ ทามาโกะ (Tako Tamago)

เมนูเสียบไม้ที่ใครเดินผ่านก็ต้องเหลียวมอง หัวปลาหมึกตัวเล็กๆ ที่ข้างในยัดไส้ด้วยไข่นกกระทาต้ม แล้วนำไปต้มกับซอสรสหวานเค็ม ซึ่งมักทำจากโชยุ มิริน และสาเก เนื้อสัมผัสของหมึกนุ่มเด้ง เสียบไม้ให้ทานง่ายๆ กินได้ในคำเดียว แถมหน้าตาก็ดูน่ารัก (หรืออาจน่ากลัวสำหรับใคร) ถ่ายรูปออกมาต้องน่ารักมากแน่นอน

 

วิธีการเดินทางไปตลาดนิชิกิ (nishiki market) 

• สถานีต้นทาง: สถานี Kyoto
• สถานีปลายทาง: สถานี Shijo
• ค่าเดินทางประมาณ: 220 เยน

ถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านค้า แผงขายของฝาก ของกินเล่นและของอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยมี อุเมะกาเอะโมจิ เป็นสัญลักษณ์ และยังมีของอร่อยอื่นๆ เช่น เมนไท เฟรนซ์ ทาโกะ ทามาโกะ และขนมอื่นๆ ที่ทำจากวัตถุดิบตามฤดูกาล

อุเมะกาเอะโมจิ (Umegae Mochi)

ขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของดาไซฟุอย่างแท้จริง เป็นโมจิแป้งข้าวเหนียวย่างสอดไส้ถั่วแดงกวน ด้านนอกมีลายดอกบ๊วย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้า อุเมะกาเอะโมจิจะย่างมาร้อนๆ ทำให้ด้านนอกกรอบนิดๆ แต่ด้านในยังนุ่มหนึบและมีไส้ถั่วแดงหวานกำลังดี มีร้านอุเมะกาเอะโมจิเรียงรายอยู่หลายร้านตามถนนที่นำไปสู่ศาลเจ้า การได้ลองชิมอุเมะกาเอะโมจิร้อนๆ ขณะเดินเล่นเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาด

เมนไทโกะ (Mentaiko)

ไข่ปลาค็อดปรุงรสเผ็ด ฟุกุโอกะขึ้นชื่อเรื่องเมนไทโกะ และที่ดาไซฟุเองก็มีของอร่อยที่ทำจากเมนไทโกะให้ลองหลายอย่าง เช่น เมนไท เฟรนซ์ (Mentai French) ขนมปังฝรั่งเศสสอดไส้เมนไทโกะผสมเนยหรือซอส แล้วนำไปอบร้อนๆ ได้ความกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมเมนไทโกะ ไข่หวานย่างเมนไท (Mentai Tamagoyaki) ไข่หวานม้วนย่างสอดไส้เมนไทโกะ เป็นการผสมผสานที่อร่อยลงตัว เมนไท ยากิ โอนิกิริ (Mentai Yaki Onigiri) ข้าวปั้นย่างไส้เมนไทโกะ

ของหวานจากสตรอว์เบอร์รี Amaou

ฟุกุโอกะยังดังเรื่องสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ Amaou ซึ่งเป็นสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ หวานฉ่ำ ในช่วงฤดูของสตรอว์เบอร์รี (ประมาณธันวาคม-เมษายน) จะมีร้านขายของหวานที่ทำจากสตรอว์เบอร์รี Amaou ออกมามากมาย เช่น ไอศกรีม พาร์เฟต์ หรือ ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี (Ichigo Daifuku) ซึ่งน่าลองมากๆ

 

วิธีการเดินทางไปศาลเจ้าดาไซฟุ เท็นมังงู (Dazaifu Tenmangu Shrine) 

• สถานีต้นทาง: สถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin)
• สถานีปลายทาง: สถานี Dazaifu
• ค่าเดินทางประมาณ: 410 เยน

จากการได้สัมผัสสตรีทฟู้ดของญี่ปุ่น บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่ครบทุกรสชาติจริงๆ ค่ะ ได้ทั้งความอร่อย ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน ได้กลิ่นอายของท้องถิ่นนั้นๆ การได้ถือของอร่อยร้อนๆ อยู่ในมือ แล้วเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา นี่แหละคือเสน่ห์ที่แท้จริงของการเดินทาง พูดแล้วก็อยากกิน Umegae Mochi เราไม่ชอบถั่วแดงเท่าไหร่ แต่สิ่งนี้อร่อยมาก ส่วนใครที่ชอบถั่วแดงอยู่แล้ว ห้ามพลาดเลย เมนูอื่นก็ด้วยนะ